ไม่พบผลการค้นหา
'แพทองธาร' นำ 'เพื่อไทย' ร่วมชมเทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพ ครั้งที่ 15 ชวนประชาชนกลับมาร่วมชมหนังในโรง ในงานคัดหนัง 61 เรื่องจาก 51 ชาติ ส่วนใหญ่เป็นหนังนอกกระแส พร้อมหนุนเป็นสนามลองฝีมือคนทำหนังให้กับอุตสาหกรรมหนัง ด้าน 'ชลน่าน'ย้ำ 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ดันสร้างงานกว่า 20 ล้านตำแหน่ง สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 200,000 บาทต่อปี

วันที่ 3 ธ.ค. 2565 แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย ทวีตข้อความผ่าน ทวิตเตอร์ @ingshin พร้อมโพสต์ภาพที่มีผู้บริหารพรรคเพือไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. โฆษกพรรคเพื่อไทย จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย สรัสนันท์ อรรณนพพร ส.ส.ขอนแก่น ศรัณย์ ทิมสุวรรณ ส.ส.เลย ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย และคณาพจน์ โจมฤทธิ์ ผู้อำนวยการโครงการคิดเพื่อไทย เข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพ ครั้งที่ 15 ที่โรงภาพยนตร์ เอสเอฟเวิลด์ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์

โดย แพทองธาร ระบุว่า ว่า "เมื่อคืนนี้ (2 ธ.ค. 2565) ทีมเพื่อไทยไปร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพ ครั้งที่ 15 เป็นการกลับมาจัดอีกครั้งหลังไม่ได้จัดมา 5 ปี ‘Return to Cinema’ เป็นธีมของงานในปีนี้ค่ะ วันนี้ ถึง 11 ธันวาคม ขอเชิญชวนทุกท่านเลยนะคะ กลับมาดูหนังที่โรงภาพยนตร์กัน เทศกาลคัดภาพยนตร์ 61 เรื่อง จาก 51 ประเทศ และกว่าครึ่งเป็นหนังนอกกระแสหรือเชิงทดลองค่ะ"

แพทองธาร ระบุว่า "หนังนอกกระแสแบบนี้ ถือเป็นสนามประลองฝีมือของคนทำหนัง เหมือนเปิดห้องทดลองทำวิจัยแนวทางใหม่ๆ ได้สนับสนุนทั้งคน ระบบนิเวศอุตสาหกรรมภาพยนตร์ และอุตสาหกรรมรอบข้างค่ะ"

แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ว่า ทีมงานจากพรรคเพื่อไทย ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมงานครั้งนี้ โดยเฉพาะเป็นการจัดงานครั้งแรกหลังไม่ได้จัดมากว่า 5 ปี โดยเทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพ ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้เผยแพร่ภาพยนตร์ที่มีความหลากหลาย โดยเฉพาะภาพยนตร์ทดลอง ซึ่งถือเป็นโอกาสของคนทำภาพยนตร์ในการจะฝึกฝนฝีมือและพัฒนาศักยภาพตัวเอง และยังเป็นโอกาสของคนดูหนัง ที่จะได้รับชมภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาความหลากหลายด้วย 

แพทองธารกล่าวอีกว่า การลงทุนกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์เป็นสิ่งสำคัญ นอกจากจะสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศ ขายจุดแข็งของประเทศด้านอื่นๆ ผ่านตัวหนัง ได้พัฒนาศักยภาพคนในวงการแล้ว อุตสาหกรรมรอบข้าง ก็จะถูกยกระดับตามไปด้วย 

“ก่อนมางาน พรรคเพื่อไทยได้ชวนคนทำงานในแวดวงภาพยนตร์มาพูดคุยกันเพื่อดู วันนี้วงการภาพยนตร์เป็นอย่างไรบ้าง ติดขัดปัญหาด้านใด เพราะเราตั้งใจและเห็นความสำคัญของการผลักดัน Soft Power ให้เป็นวาระหลัก เรามีนโยบายที่จะออกมาผลักดันอย่างชัดเจน คือ ‘1 ครอบครัว 1 Soft Power’ โดยหน่วยงานที่จะตั้งมารับผิดชอบการพัฒนาอุตสาหกรรมโดยเฉพาะคือ Thacca มาจาก Thailand Creative Content Agency” แพทองธารกล่าว 

ด้าน นพ. ชลน่าน อธิบายเพิ่มเติมว่า 1 ครอบครัว 1 Soft Power คือนโยบายที่คิดขึ้นเพื่อตั้งใจผลักดัน Soft Power ไทย พัฒนาศักยภาพคนไทย โดยวางเป้าว่าจะสร้างงานกว่า 20 ล้านตำแหน่ง แต่ละคน สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท ต่อปี

CBB6F5A3-2E95-4377-863D-DB99C9D56E09.jpegB4214311-D264-4F19-916E-02C845EC03D0.jpeg93BD64B7-604B-4B3E-A1DF-2A54024E7570.jpegB29B28E2-2E6A-4E76-8AA1-A4B4F33ECE58.jpegD1E150E6-4D3A-4E5E-8684-47AF6EAD52A8.jpeg773A4012-F66B-487B-A861-2C2FA31B19FF.jpeg922AA16E-0608-45C5-A42C-1E38F2CADA42.jpeg


แพทองธาร ชลน่าน  เทศกาลภาพยนตร์โลก cAAYx5J.jpegแพทองธาร ชลน่าน  เทศกาลภาพยนตร์โลก  ชลน่าน acAQTiBj.jpegแพทองธาร ชลน่าน  เทศกาลภาพยนตร์โลก  AIueW.jpeg