วันที่ 21 ส.ค. ที่อาคารรัฐสภา ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สว. เปิดเผยถึงสถานการณ์ในการโหวต เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยในวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) โดยมองว่าเป็นการกำหนดระเบียบวาระตามปกติ และการโหวตของ สว.จะเป็นไปตามหลักการ ตามที่ สว. หลายท่านได้แสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะ ซึ่งถ้าเสียงส่วนใหญ่ของ สส.เสนอชื่อใครมา คนนั้นก็มีโอกาส 90-100 % ว่าจะได้
ดิเรกฤทธิ์ ระบุว่า แคนดิเดตนายกที่เสนอชื่อนั้นต้องไม่มีคุณสมบัติต้องห้าม และการประพฤติต้องไม่ผิดจริยธรรม ซื่อสัตย์สุจริต มีความรู้ความสามารถ ทำนโยบายให้สำเร็จ อย่างข้อเสนอว่าจะจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก โดยการจัดทำของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ส่วนนี้ต้องอธิบายให้ชัดเจน ว่ามีความจำเป็นอย่างไรถึงต้องแก้เนื้อหาทั้งฉบับ
“สส.ก็เป็นตัวแทนของประชาชนจากทั่วประเทศอยู่แล้ว ทำไมจึงไม่เลือกเรื่องที่สำคัญ แล้วมาแก้เป็นรายมาตรา มีความจำเป็นอย่างไรจึงต้องแก้ทั้งฉบับ และการแก้ทั้งฉบับมีขอบเขตอย่างไร หมวด 1 หมวด 2 จะเอาไว้ไหม” ดิเรกฤทธิ์ กล่าว
ดิเรกฤทธิ์ กล่าวต่อไปว่า หากพรุ่งนี้มีการเสนอชื่อ เศรษฐา จริง ก็เข้าองค์ประกอบตามที่กล่าวไว้ ทั้งกรณีที่มีพฤติการณ์ทุจริต เมื่อครั้งยังเป็นผู้บริหารบริษัทมหาชน ซึ่งมีผู้ร้องเรียนเข้ามา รวมถึงเรื่องการจะให้มีมติคณะรัฐมนตรีจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดย สสร. ทั้งสองเรื่องถือเป็นชนักใหญ่ที่จะต้องมาชี้แจงต่อสมาชิกรัฐสภา
ดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกเสนอชื่อ เพราะมีทั้ง สส. และ สว. หลายฝ่าย แสดงความกังวลและเสนอแนะ โดย เศรษฐา และพรรคเพื่อไทยควรจะมีโอกาสได้ชี้แจง แม้ เศรษฐา จะไม่ใช่ สส. ไม่ได้อยู่ในที่ประชุม ก็จะเสียประโยชน์เอง ส่วนตัวมองว่าทางพรรคเพื่อไทย ควรทำหนังสือขออนุญาตให้เข้ามาชี้แจงในที่ประชุมรัฐสภา เพราะเป็นข้อมูลสำคัญที่สมาชิกรัฐสภาจะใช้ประกอบการตัดสินใจ