จากบทสัมภาษณ์ของ CNN ต่อจอห์นสัน ที่เพิ่งได้รับการเผยแพร่ไม่นานมานี้ อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรยังอ้างอีกว่า เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เคยปฏิเสธรายงานว่ามีภัยคุกคาม ที่จะนำไปสู่การรุกรานยูเครนของรัสเซีย และทางอิตาลีซึ่งในขณะนั้นมี มาริโอ ดรากี เป็นนายกรัฐมนตรีอิตาลี ระบุว่า อิตาลีไม่สามารถช่วยเหลือยูเครนได้ เนื่องจากประเทศของตนต้องพึ่งพาการนำเข้าไฮโดรคาร์บอนจากรัสเซีย
หลังจากข้อกล่าวหาของจอห์นสันถูกเผยแพร่ผ่าน CNN โฆษกของ โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ออก ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวจากอดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร พร้อมกล่าวโจมตีจอห์นสันด้วยสำนวนทางการทูตว่า “เรารู้ว่าอดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้ชอบสร้างความสนุกสนาน มักมีความสัมพันธ์ที่ไม่เหมือนใครกับความเป็นจริง กรณีดังกล่าวนี้ก็ไม่ได้เป็นข้อยกเว้น” นอกจากนี้ มิเกล เบอร์เกอร์ เอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำสหราชอาณาจักร ยังสนับสนุนการไม่ให้ค่าคำพูดของจอห์นสันด้วย
คำกล่าวอ้างของจอห์นสันในครั้งนี้ มีความคล้ายกับความคิดเห็นของ แอนดรีย์ เมลนิก อดีตเอกอัครราชทูตยูเครนประจำเยอรมนี ซึ่งเคยกล่าวว่า นักการเมืองชาวเยอรมันบอกกับตนก่อนการรุกรานของรัสเซียว่า พวกเขาคาดว่ายูเครนจะพ่ายแพ้สงครามภายในเวลา 3 วัน ดังนั้น มันจึงไม่มีประโยชน์ที่เยอรมนีจะให้ความช่วยเหลือใดๆ ต่อยูเครน
เมลนิกยังกล่าวหาว่า คริสเตียน ลินด์เนอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเยอรมนี พยายามขัดขวางการส่งอาวุธมาช่วยยูเครน หรือการตัดรัสเซียออกจากระบบสวิฟต์ หรือระบบโอนเงินข้ามประเทศ อย่างไรก็ดี ลินด์เนอร์ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
ในอีกทางหนึ่ง มาครงเคยพูดออกอากาศก่อนการรุกรานยูเครน เพื่อขอให้ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เจรจากับ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างสิ้นหวัง
จอห์นสันเน้นย้ำในการให้สัมภาษณ์กับ CNN ว่าในเวลาต่อมา ประเทศต่างๆ ในสหภาพยุโรปได้รวมตัวกันหนุนหลังยูเครนและให้การสนับสนุนอย่างมั่นคง แต่อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรกล่าวว่า การให้การสนับสนุนดังกล่าวไม่เกิดขึ้นในระดับสากล ในช่วงก่อนการรุกรานในเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา
“สิ่งนี้น่าตกใจอย่างมาก… เราสามารถเห็นกลุ่มยุทธวิธีของกองพันรัสเซียรวมตัวกัน แต่ประเทศต่างๆ มีมุมมองที่แตกต่างกันมาก” จอห์นสันบอกกับ ริชาร์ค เควสต์ จาก CNN ในโปรตุเกส “มุมมองของเยอรมนีอยู่ในขั้นตอนหนึ่งว่า ถ้ามันจะเกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นหายนะ มันคงจะดีกว่าที่เรื่องทั้งหมดจะจบลงอย่างรวดเร็ว และสำหรับยูเครนที่จะยอมจำนน” อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรกล่าว โดยอ้างถึง “คำกล่าวอ้างต่างๆ ในด้านเหตุผลทางเศรษฐกิจ” สำหรับแนวทางของเยอรมนี โดยจอห์นสันย้ำว่า ตนไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว
“ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ฝรั่งเศสปฏิเสธจนถึงวินาทีสุดท้าย” จอห์นสันกล่าว โดยเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ หัวหน้าหน่วยข่าวกรองทางทหารของฝรั่งเศส ได้รับคำสั่งให้ไล่ออกจากตำแหน่ง สืบเนื่องจากความ “ล้มเหลวในการคาดการณ์” การรุกรานยูเครนของรัสเซีย ในขณะที่จุดยืนของสหราชอาณาจักร ซึ่งจอห์นสันเน้นย้ำในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อการประชุมความมั่นคงที่มิวนิก ในช่วงก่อนการรุกรานยูเครนว่า สหราชอาณาจักรจะสนับสนุนการต่อต้านของยูเครนใดๆ ที่เกิดขึ้น เมื่อการบุกรุกเริ่มต้นขึ้น
ในขณะนั้น จอห์นสันเผยว่าสหราชอาณาจักรไม่แน่ใจว่ายูเครนหรือ โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน จะมีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อการรุกรานเริ่มต้นขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหน่วยข่าวกรองของสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ พยายามโน้มน้าวประธานาธิบดียูเครนให้เชื่อว่า การที่รัสเซียระดมกำลังพลประชิดชายแดนไม่ใช่เพียงแค่การข่มยูเครนธรรมดาๆ
จอห์นสันพยายามเน้นย้ำว่า มีเพียงสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ เท่านั้น ที่ตัดสินใจถูกต้องเกี่ยวกับการคาดเดาถึงเจตนาของปูติน จอห์นสันยังให้สัมภาษณ์อีกว่า เมื่อรัสเซียเริ่มการรุกรานยูเครน ทัศนคติของชาติทั่วยุโรปกลับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
“สิ่งที่เกิดขึ้นคือทุกคน เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี ทุกคน โจ ไบเดน ต่างเห็นว่าไม่มีทางเลือกอื่นเลย เพราะคุณไม่สามารถเจรจากับผู้ชายคนนี้ (ปูติน) ได้ นั่นคือประเด็นสำคัญ” จอห์นสันกล่าวพร้อมระบุเสริมว่า สหภาพยุโรป “ทำได้อย่างยอดเยี่ยม” ในการต่อต้านรัสเซียตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
“หลังจากความวิตกกังวลทั้งหมดของผม… ผมขอแสดงความนับถือต่อวิธีที่สหภาพยุโรปได้กระทำ พวกเขามีความสามัคคี การคว่ำบาตรนั้นยากเข็ญ” จอห์นสันกล่าวก่อนเสริมว่า ตนคิดว่ามันคงจะดีสำหรับยูเครนที่จะเข้าร่วมเป็นชาติสมาชิกสหภาพยุโรป พร้อมกล่าวยกย่องความกล้าหาญส่วนตัวของเซเลนสกี
ที่มา: