ไม่พบผลการค้นหา
คนร้ายไม่ทราบจำนวนก่อเหตุลอบวางระเบิดจักรยานยนต์บอมบ์ในตลาดที่จังหวัดยะลา เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บนับสิบ เจ้าหน้าที่เร่งติิดตามตัวผู้ก่อเหตุ

วันที่ 22 ม.ค. 61 พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า มีคนร้ายไม่ทราบชื่อและจำนวนนำรถจักรยานยนต์ติดตั้งระเบิดไปจอดทิ้งไว้ภายในตลาดสดพิมลชัย เขตเทศบาลนครยะลา ถนนสิโรรส แรงระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย และบาดเจ็บเบื้องต้น 18 คน



DUG3B3OVAAE32QG.jpg



DUG3CwhU0AAttXP.jpg


หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร อีโอดี และฝ่ายปกครองเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมกันประชาชนออกห่างจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว 

ด้าน พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค 4 เผยถึงความคืบหน้ากรณีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดนี้ว่าจากการตรวจสอบพบว่าระเบิดที่คนร้ายใช้คือ จักรยานยนต์บอมบ์ โดยคนร้ายนำมาจอดทิ้งไว้หน้าตลาดก่อนหลบหนีไป ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และ บาดเจ็บเบื้องต้น 18 คน โดยพื้นที่ดังกล่าวไม่เคยเกิดเหตุความรุนแรงเลยในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าวขอโทษชาวบ้าน หลังเกิดเหตุการณ์นี้ โดยระบุว่า แม้เจ้าหน้าที่จะเข้มงวดเรื่องการรักษาความปลอดภัย แต่ยอมรับว่าบางครั้งอาจจะมีช่องว่างบ้าง จึงทำให้กลุ่มคนร้ายสบโอกาสในการลงมือ พร้อมประณามกลุ่มผู้ก่อเหตุที่กระทำการรุนแรง และ สร้างปัญหาในพื้นที่ ว่าเป็นกลุ่มบุคคลไม่ดี เจ้าหน้าที่พอรู้ตัวแล้วว่าเป็นใคร เบื้องต้น คาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ แต่ต้องตรวจสอบพยานหลักฐานก่อน รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม แม่ทัพภาค 4 กล่าวว่า สาเหตุของการสร้างสถานการณ์น่าจะมาจากปมเรื่องธุรกิจมืด และ น่าจะเป็นฝีมือของคนบางตระกูลที่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุรุนแรงอยู่แล้ว เนื่องจากหากภาพลักษณ์ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงดูรุนแรงและน่ากลัว ก็จะทำให้กลุ่มธุรกิจไม่กล้าเข้าไปลงทุน ซึ่งก็จะส่งผลดีกับกลุ่มธุรกิจมืดบางกลุ่มที่อาศัยภาพความรุนแรงดังกล่าวในการหากิน

ด้านรองนายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการทหารบก ได้รับรายงานเบื้องต้น และสั่งการไปยังแม่ทัพภาคที่ 4 ให้เร่งรัดดำเนินการสองเรื่องใหญ่ คือ ช่วยเหลือผู้ที่บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ และให้ติดตามคนร้าย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการรวบรวมวัตถุพยานและตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ทราบเบาะแสของคนร้ายแล้ว คงไม่ยากที่จะใช้มาตรการทางกฎหมายในการดำเนินการขั้นเด็ดขาด นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ให้ช่วยกันสอดส่องดูแล เพราะที่ผ่านมาเขตเทศบาลนครยะลาปราศจากเหตุร้ายมาเป็นเวลานาน เหตุการณ์ในครั้งนี้สร้างความสะเทือนใจและสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน แม้คนทางเลือกที่จะใช้ความรุนแรง แต่รัฐจะไม่ใช้ความรุนแรงในการตอบโต้อย่างเด็ดขาด แต่จะใช้มาตรการทางกฎหมาย สำหรับญาติของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ขอให้แจ้งไปยังศูนย์แจ้งเหตุของจังหวัดยะลา 

โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบว่ากลุ่มที่ก่อเหตุในครั้งนี้ คงเป็นกลุ่มเดิมที่เจ้าหน้าที่มีฐานข้อมูลอยู่แล้ว ในส่วนการวางระบบรักษาความปลอดภัยในเขตพื้นที่เมือง ได้มีการกำหนด เขตพื้นที่ไว้ 3 ส่วนด้วยกัน ในส่วนที่ 1 คือโซน Safety Zone ซึ่งมีการวางระบบความปลอดภัยอย่างเข้มงวด สำหรับที่เกิดเหตุ ณ จุดนี้เป็นพื้นที่วงรอบเส้นกลาง ซึ่งจะใช้การรักษาความปลอดภัยในภาพรวมทั่วๆไป ประชาชนทั่วไป สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ สำหรับบริเวณ ที่เกิดเหตุในครั้งนี้ ก็คือบริเวณกลางตลาดพิมลชัย ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่ ประชาชนมาจับจ่ายใช้สอยซื้อของในตลาด 

ดังนั้นในเรื่องของการตรวจจะมีข้อจำกัด โดยคนร้ายเลือกอาศัยจังหวะช่องว่างส่วนนี้มาก่อเหตุ จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ เป็นเครื่องบ่งชี้ได้ชัดเจนว่า ทางกลุ่มคนร้ายยังไม่เคยละความพยายาม ที่จะดำเนินการอยู่ 3 เรื่องใหญ่ๆ ในเรื่องแรกคือ การทำลายชีวิตของประชาชน โดยไม่เลือกเป้าหมาย และการทำลายทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน เรื่องที่ 2 การทำลายภาพลักษณ์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้ทางรัฐบาลอยู่ในระหว่างการขับเคลื่อนแผนพัฒนาเมืองต้นแบบ สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ที่ได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนอย่างกว้างขวาง และเรื่องที่ 3 คือ การทำลายความเชื่อมั่นในระบบอำนาจรัฐ เพราะฉะนั้นอยากให้พี่น้องประชาชนได้ใช้สติ ในการรับทราบข้อมูลข่าวสาร ไม่ใช่ว่าเมื่อคนร้าย ไม่ทำร้ายพี่น้องประชาชนแล้วไปตีความว่าเขาไม่เคยทำร้ายประชาชน อยากให้มองย้อนกลับไป เมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา มีพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องตกเป็นเหยื่อหลายพันคน ซึ่งจากการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่มีพฤติกรรมแบบสุดโต่ง รวมทั้งเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน รู้ทั้งรู้ว่าพื้นที่ในตลาดมีประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอย แต่เขายังเลือกที่จะก่อเหตุในบริเวณนี้และเวลานี้ ดังนั้นจึงแสดงให้เห็นว่าเป็นความพยายามเดิมของกลุ่มคนร้าย ที่มุ่งที่จะทำร้ายประชาชน

เพจ Wartani เปิดเผยรายชื่อผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บทั้ง 23 คน โดยขณะนี้ถูกส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลศูนย์ยะลา 


ขอบคุณภาพจากทวิตเตอร์ สวพ.91