ความเคลื่อนไหวการลงพื้นที่ตรวจราชการที่ จ.นครสวรรค์ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในช่วงบ่ายวันนี้ (11 มิ.ย.) นายกฯ พร้อมคณะเดินทางโดยรถไฟขบวนพิเศษจากสถานีรถไฟชุมแสง ต.ชุมแสง อ.ชุมแสง ไปยังสถานีรถไฟนครสวรรค์ ต.หนองปลิง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เพื่อตรวจโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ (ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ) ระยะทาง 145 กิโลเมตร จำนวน 20 สถานี ซึ่งเป็นการยกระดับการเดินทางและการขนส่งสู่ภาคเหนือ รวมถึงลดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดถนนกับทางรถไฟ และเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าทางเรือไปยังท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง
โดยระหว่างทาง นายกรัฐมนตรีได้ทักทายกับชาวบ้านที่ออกมาให้การต้อนรับริมสองข้างทางอย่างคึกคัก พร้อมเชิญชวนชาวบ้านให้ไปเลือกตั้งและถามด้วยว่ามีพรรคการเมืองในใจแล้วหรือไม่
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้นั่งโบกี้เดียวกับสื่อมวลชน พร้อมชมทัศนียภาพ 2 ข้างทาง ที่มีทุ่งนาและบ้านเรือนของประชาชน โดยกล่าวว่า ทุ่งนาขณะนี้มีความสวยงาม แต่พอออกมาก็บ่นว่าราคาตก ขณะที่ชาวบ้านก็บ่นว่าผลไม้ราคาแพง โดยเฉพาะทุเรียน ซึ่งส่งไปขายยังต่างประเทศหมด ส่วนตัวก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี พร้อมหันมาบอกผู้สื่อข่าวให้ร้องเพลง พร้อมถามด้วยว่าเคยไปทัวร์นกขมิ้นหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ขบวนรถไฟได้จอดที่สถานีทับกฤช โดยนายกรัฐมนตรีได้ทักทายประชาชนที่มารอให้การต้อนรับ และซื้อสินค้าจากประชาชนพร้อมกล่าวว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) ไม่ใช่ให้งบประมาณแค่จ.พิจิตร หรือ จ.นครสวรรค์เพียงอย่างเดียว แต่ให้ 4 จังหวัดที่อยู่ในภาคเหนือตอนล่าง 2 ได้แก่ พิจิตร กำแพงเพชร นครสวรรค์ และอุทัยธานี โดยทุกจังหวัดจะได้งบประมาณที่ใกล้เคียงกันในทั่วประเทศ
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุม ครม. สัญจรบนรถไฟ ว่า จะประชุมเมื่อมีรถไฟความเร็วสูง ที่ผ่านมาที่มีการประชุมเป็นการสร้างภาพ เพราะ แค่พูดกันยังไม่ได้ยิน เพราะบนรถไฟเสียงดัง
เผยเชียร์ บราซิล - อิตาลี - ฝรั่งเศส
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแข่งขันฟุตบอลโลก ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 มิ.ย นี้ ว่า ส่วนตัวไม่ได้เชียร์ทีมใดเป็นพิเศษเพราะในดวงใจไม่มีที่เหลือให้ใครนอกจากชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ประชาชน แต่ชื่นชอบสไตล์การเล่น ของทีมบราซิล, อิตาลี และหากจะเชียร์จะเชียร์ทีมบราซิล, อิตาลี และ ฝรั่งเศส
'ประยุทธ์' ขอบคุณอดีต ส.ส. ส.ว. ต้อนรับ ปัดยุทธศาสตร์ชาติมุ่งสืบทอดอำนาจ
จากนั้น พลประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังอาคารเอนกประสงค์สัมมนาและจัดแสดงนิทรรศการ บึงบอระเพ็ด โดยมีประชาชน นายชาดา ไทยเศรษฐ อดีต ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง อดีต ส.ว.อุทัยธานี และนักการเมืองท้องถิ่น มารอต้อนรับนายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีเป็นประธานสักขีพยานมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ หรือ อยู่อาศัย ในพื้นที่เป้าหมาย การจัดที่ดินทำกินพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าปลายห้วยกระเสียวและเป็นพยานมอบเงินกู้ตามโครงการยุ้งฉางของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธกส.
นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณ นักการเมืองที่มาร่วมรับฟังแนวทางการแก้ปัญหาในวันนี้ ซึ่งย้ำว่า ทุกคนจะต้องร่วมมือกัน เพื่อทำให้วันข้างหน้าเมื่อไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ มียุทธศาสตร์ชาติแล้ว จะเดินหน้าร่วมกันอย่างไร เพราะต้องยอมรับว่า เมื่อโลกเปลี่ยน ประเทศไทยก็ต้องเปลี่ยนตาม พร้อมขอร้องให้เข้าถึงความจำเป็นที่ต้องมียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อเป็นกรอบในการขับเคลื่อนประเทศ ไม่ใช่การสืบทอดอำนาจ ซึ่งตามข้อเท็จจริง แม้รัฐบาลจะมีอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดิน แต่ต้องยอมรับว่ายังมีปัญหาการทุจริต ที่คอยบั่นทอนความเจริญของประเทศอยู่ เชื่อว่าเรื่องนี้ทุกคนเข้าใจตรงกัน แต่ติดที่ว่าจะทำอย่างไรให้ปัญหาหมดไปให้ได้
สิ่งสำคัญอีกประการ คือต้องไม่ให้ความขัดแย้ง รุนแรง เกิดขึ้นมาอีก เพราะวันนี้เรากำลังก้าวไปสู่ประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง
ทั้งนี้ ยืนยันว่า สิ่งรัฐบาลชุดนี้ทำมาจะไม่สูญเปล่า และขออย่ากังวลกับตัวเองมากนักในเรื่องการเมือง
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 โดยเฉพาะนครสวรรค์ ถือว่ามีศักยภาพสูง ทั้งในแง่การผลิต พืชเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น อ้อย มันสำปะหลัง และผลไม้หลายชนิด ดังนั้น จะต้องสร้างความร่วมมือ เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการที่ดี ทั้งในเรื่องของน้ำ พื้นที่ทางการเกษตร และที่ดินทำกินให้กับประชาชน และจากการที่นครสวรรค์มีบึงบอระเพ็ดที่มีทะเลสาบใหญ่ที่สุดในประเทศ รัฐบาลจึงเน้นที่จะให้มีโครงการเพื่อเป็นแหล่งกักเก็บน้ำ ของการกระจายน้ำไปยังพื้นที่อื่นๆ เพื่อประโยชน์ในการทำการเกษตรทุกประเภท ทั้ง เกษตรกรที่อยู่ในภาคการผลิต หรือการเพราะปลูก และในส่วนที่เป็นเกษตรแปรรูป
ลั่น งบฯไทยนิยม 2 แสนล้านสร้างประชาธิปไตย
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงงบประมาณโครงการไทยนิยม ที่จัดเตรียมไว้ประมาณ 2 แสนล้านบาทนั้น ไม่ใช่งบฯ ที่ใช้สำหรับการหาเสียง แต่จะใช้ในการสร้างประชาธิปไตยในพื้นที่ โดยให้แต่ละพื้นที่เลือกตัวแทนผู้นำหมู่บ้าน ในการสร้างความเข้าใจในประชาธิปไตย พร้อมยืนยัน เรื่องประชารัฐหรือไทยนิยมไม่ใช่เรื่องของการเมือง และทุกคนต้องเตรียมความพร้อมไปสู่ประชาธิปไตยวันข้างหน้า จึงไม่อยากให้กังวลกับตัวเองมากนัก
ตอนท้ายนายกรัฐมนตรี ขอบคุณบรรดานักการเมืองกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 พร้อมขอให้สัญญาในเรื่องของการเดินหน้าประเทศไปด้วยกัน เพราะวันข้างหน้าต้องเดินไปสู่ประชาธิปไตย ตนเองต้องเข้าสู่คูหาเลือกตั้ง เช่นเดียวกับทุกคน จึงขอให้ประชาชนเลือกให้ดี เลือกให้ถูก ให้ได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล เข้ามาดูแลประชาชนทั่วถึงทุกพื้นที่
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ลงจากเวทีแนะนำคณะรัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการที่ลงพื้นที่ ก่อนจะทักทายกับอดีตนักการเมืองอย่างเป็นกันเอง โดยกล่าวว่า "พี่ๆ นักการเมืองทั้งหลาย สวัสดีนะพี่นะ ขอให้ช่วยกันทำเพื่อประเทศไทย ทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าให้ได้ เราต้องเชื่อมั่นในคนไทยด้วยกันเอง"
เตือนประชาชน "อย่าซื้อหวยมากนัก"
ก่อนจะเดินผ่านกลุ่มประชาชนที่มาต้อนรับ โดยประชาชนสอบถามถึงป้ายทะเบียนรถที่นายกฯ ใช้ในการลงพื้นที่ นายกฯ จึงตอบกลับว่า อย่าไปซื้อหวยมากนัก เพราะรถในการลงพื้นที่ ทางพื้นที่จัดเตรียมไว้ให้ ไม่ใช่รถของตัวเอง จากนั้น นายกฯ ได้ทำการปลูกต้น รวงผึ้ง ต้นไม้ประจำรัชกาลที่ 10
สำหรับวันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 (นครสวรรค์ กำแพงเพชร พิจิตร และอุทัยธานี) พร้อมทั้งเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์
ส่วนภารกิจช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาและชุมชนบ้านแก่ง ม.1 ต.บ้านแก่ง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ และเยี่ยมชมแปลงนาการผลิตพันธุ์ข้าว กิจกรรมการสาธิตกระบวนการเกี่ยวกับข้าว การส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพครบวงจร (Bio Hub) และการวิจัยเกี่ยวกับข้าว ณ บริษัท กล้า-แกร่ง จำกัด ม.4 ต.มหาโพธิ อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง