นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกล่าวถึงกรณีที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เข้าชื่อเสนอร่างกฎหมายเพื่อแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2560 เพื่อแก้ไขการสรรหาผู้ตรวจการเลือกตั้ง จนถูกวิพากษ์วิจารณ์และหวั่นว่าจะส่งผลกระทบต่อโรดแม็ปการเลือกตั้งต้องยืดออกไป ว่า สนช.ที่ร่วมกันลงชื่อถ้าฟังกระแสสังคม ฟังเสียงประชาชนบ้าง จะรับรู้ได้เองว่าประชาชนต้องการอะไร อยากให้แก้ไข ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต.หรือไม่ โพลสำนักต่างๆสะท้อนว่าประชาชนส่วนใหญ่อยากให้ประเทศเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง การลงทุนทั้งจากต่างประเทศ ภาคเอกชนในประเทศ ต่างก็รอดูความชัดเจนการเลือกตั้ง

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า การเรียกร้องการเลือกตั้งตามโรดแม็ป เป็นความต้องการของประชาชนทุกภาคส่วน นักการเมืองคือ กลุ่มคนกลุ่มสุดท้ายที่ได้รับผลกระทบหากยังไม่มีการเลือกตั้ง แต่ที่กระทบกันถ้วนหน้าคือ ประชาชน ความเชื่อมั่นของประเทศที่เกิดคำถามจากนานาประเทศว่าทำไมช่วงเวลา 4-5 ปี ประเทศไทยไม่สามารถกลับสู่การเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยที่เป็นสากลได้เพราะอะไร

"มีความพยายามในการยื้อการเลือกตั้งออกไปให้นานที่สุด เพื่อขยายการสืบทอดอำนาจออกไปให้นานที่สุดด้วยหรือไม่ กลุ่มการเมืองต่างๆ ที่จะสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ หัวหน้าคสช. ให้เป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง ประกาศตัวชัดเจนพร้อมเป็นรัฐบาลทุกกลุ่มการเมืองแล้ว ถึงขั้นมีการเดินสายดูดสัญจร คู่ขนานไปกับการจัดประชุมครม.สัญจร เปิดหน้าทำกันแล้ว แม่น้ำ5สาย ต้องตั้งคำถามว่าทำไมบอกว่าจะจัดการเลือกตั้งกุมภาพันธ์ 2562 จึงยังไม่มีคนเชื่อมากนัก ส่วนหนึ่งเกิดจากการกระทำของพวกท่านที่ผ่านมา ที่ประกาศจะเลือกตั้งแล้วก็หาแท็กติกเลื่อนแล้วเลื่อนอีก หรือการที่แม่น้ำ5สายต่างฝ่าย ต่างพูด ต่างตีความ จนสับสนไปหมดหรือไม่ ดังนั้น สิ่งใดที่จะเป็นส่งสัญญาณหรือการดำเนินการที่สร้างความหวาดระแวงต่อประเทศชาติและประชาชน พวกท่านต้องระมัดระวัง" นายอนุสรณ์ กล่าว