พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยส.ส.ของพรรค แถลงข่าวแสดงท่าทีและจุดยืนต่อการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจำนวน 7 ฉบับ โดย พิธา กล่าวว่า พรรคก้าวไกลมีความพร้อมในการทำงานหน้าที่และเตรียม ส.ส.ที่จะดำเนินการอภิปรายไว้อย่างหลากหลาย สำหรับการลงมติของพรรคก้าวไกลนั้นพรรคจะรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 7 ฉบับ และจะเสนอให้เอาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของไอลอว์เป็นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับหลัก สำหรับการพิจารณาในชั้นของคณะกรรมาธิการของรัฐสภา เพราะเป็นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีเนื้อหาครอบคลุมมากที่สุด เพื่อให้ประชาชนได้รับสิ่งที่ต้องการ
“ขอส่งสารไปถึงส.ส. หากไม่ทำหน้าที่เพื่อพิทักษ์สิทธิเสรีภาพก็อย่าเรียกตัวเองว่าเป็นผู้แทนราษฎร ส่วนส.ว.ถือเป็นโอกาสสำคัญของพวกท่านในการส่งสัญญาณไปยังประชาชนเพื่อแสดงสปิริตทางการเมืองร่วมกันหาทางออกให้กับประเทศไทยต่อไป และขอให้พรรคร่วมรัฐบาล และส.ว.ถอนชื่อการส่งไปศาลรัฐธรรมนูญเพื่อแสดงความจริงใจในการบรรเทาสถานการณ์” พิธา กล่าว
เมื่อถามว่า ประเมินท่าทีรัฐบาลในการออกเสียงอย่างไร พิธา กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความชัดเจนว่าจะเน้นไปร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้าน แต่ไม่ตอบสนองร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของประชาชน ซึ่งน่าเป็นห่วงต่อสถานการณ์บ้านเมืองที่จะเกิดขึ้นต่อไป
“น่าเสียดายมากในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา เพราะพวกเราก้าวไกลพยายามเสนอทางออกเพื่อบรรเทาปัญหาทางการเมือง ให้รัฐสภาเป็นต้นแบบในการพูดคุยและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับโยนโอกาสเหล่านั้นทิ้งไป มีแต่เพียงการเปลี่ยนจุดยืนไปมาและการยื้อด้วยการยื่นศาลรัฐธรรมนูญ” พิธา กล่าว
หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวอีกว่า การลงมติรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 7 ฉบับจะเป็นผลดีทางการเมืองมากกว่าการตั้งคณะกรรมการปรองดอง ไม่มีทางไหนลดอุณหภูมิได้ดีเท่ากับการรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกแล้ว โดยสามารถนำทุกอย่างไปคุยกันในรายละเอียด เพื่อให้รัฐสภาเป็นพื้นที่ปลอดภัย
พิจารณ์ เชาว์พัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกัน 4 ฝ่ายยังมีความหนักใจต่อท่าทีของ ส.ว.โดยมาจากการที่ส.ว.กังวลและไม่ต้องการลงมติในช่วงเย็นที่อาจต้องใช้เวลานานถึง 4 ชั่วโมง เนื่องจากเป็นการลงมติด้วยวิธีการขานชื่อทั้ง 7 ฉบับแปลความเป็นอย่างอื่นไม่ได้ว่าจะไม่รับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของไอลอว์ จึงอยากเรียกร้องไปยังส.ว.เพื่อเห็นแก่บ้านเมือง ขอให้ละทิ้งคำสั่งที่ไม่ว่าจะรับมาจากทางไหน แต่ควรกลับมารับฟังเสียงของประชาชน รับฟังด้วยความเป็นกลาง ที่ต้องการให้เกิดรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่มีความเท่าเทียมและสร้างทางออกให้กับสังคมปัจจุบัน หวังว่าการประชุมรัฐสภาจะเป็นการอภิปรายบนความถ้อยทีถ้อยอาศัยกันและดำเนินการลงมติ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ารัฐสภาจะมีมติรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใด พรรคก้าวไกลในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านจะเสนอชื่อส.ส.ของพรรคจำนวน 3 คนเข้าไปทำหน้าที่ในคณะกรรมาธิการอย่างแน่นอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :