ไม่พบผลการค้นหา
อนุทิน เชียร์แก้ ม.48 ให้แต่ละพรรคใช้เบอร์เดียวกันทั่วประเทศ ชี้ไม่ควรมองโลกในแง่ร้ายเกินไป เชื่อไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับบางพรรค ด้านอุตตม อ้างตัดชื่อ-โลโก้พรรค ในบัตรเลือกตั้ง ไม่ช่วย พปชร.ได้เปรียบ ชี้ยังไม่ถึงเวลา 4 รัฐมนตรีทิ้งเก้าอี้

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ระบุว่า การกำหนดให้บัตรเลือกตั้ง ส.ส. ไม่มีโลโก้พรรคการเมืองอยู่ในบัตรนั้น อาจทำให้เกิดความสับสน การเปลี่ยนแปลงที่ผิดไปจากเดิมในสิ่งที่เคยปฏิบัติมา นอกจากจะไม่สร้างความสะดวกให้แก่ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งแล้ว ยังอาจถูกครหาว่าเป็นการเอารัดเอาเปรียบหรือไม่ 

ส่วนการที่มีพรรคการเมืองให้แก้ไขมาตรา 48 ใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เพื่อกำหนดให้แต่ละพรรคได้เบอร์เดียวกันทั้งประเทศนั้นเห็นว่า แต่ละพรรคควรใช้เบอร์เดียว ซึ่งจะช่วยประหยัดเรื่องค่าใช้จ่าย และที่ผ่านมาก็ทำมาโดยตลอด

อย่างไรก็ตามเชื่อมั่นในวิจารณญาณของประชาชน ไม่ว่าจะออกมาอย่างไร และยิ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยปฏิบัติมา ประชาชนยังจะเลือกผู้สมัครที่เขาชื่นชอบอยู่ดี ที่คิดว่าออกมาแบบนี้แล้วจะได้เปรียบนั้น แท้จริงแล้วไม่ได้ช่วยให้เกิดความเหลื่อมล้ำแต่อย่างใด

นายอนุทิน ยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยพร้อมต่อสู้ในสนามเลือกตั้ง รับได้กับทุกกติกา ทุกรูปแบบที่ออกมา ซึ่งถ้าใครไม่พอใจในกติกาก็อย่าลงต่อสู้ในสนามเลือกตั้ง โดยพรรคภูมิใจไทยมีความพร้อมมานานแล้ว มีความมั่นใจในตัวผู้สมัครที่พรรคจะส่งลงเลือกตั้ง ซึ่งเป็นคนของประชาชนอย่างแท้จริง และมีความนิยมในตัว 

อนุทิน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

อย่างไรก็ตาม ไม่เห็นด้วยที่จะนำเรื่องนี้ไปฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพราะอาจกระทบกับการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ. ซึ่งหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยคนนี้จะไม่ก่อปัญหาใดๆให้การเลือกตั้งมีปัญหา เพราะต้องการให้มีเลือกตั้ง เพื่อเข้าไปแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ไม่ต้องการเดินเกมการเมือง หรือสร้างความขัดแย้งเพิ่มขึ้น 

ส่วนกรณีเสียงวิจารณ์ถึงความเหมาะสมของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีชื่ออยู่ในอับหนึ่งบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐนั้น นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ควรมองว่าการที่มีผู้ใหญ่ของบ้านเมืองมาลงสมัครแล้วจะมีปัญหา เพราะในสมัยก่อนพรรคการเมืองต้องต่อสู้กับพรรคของนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่มีอะไรแตกต่างกับยุคปัจจุบัน 

เรื่องนี้ไม่ควรมองโลกในแง่ร้ายเกินไป เชื่อว่าไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองบางพรรคมากนัก ซึ่งในพรรคภูมิใจไทยไม่มีใครกังวลเรื่องนี้ และจากพูดคุยกับหลายพรรคการเมืองก็ไม่มีใครกังวล เพราะเทคโนโลยีสมัยนี้ค่อนข้างเชื่อถือได้ ใครคิดที่จะโกงจะอยู่ไม่สุข

และเนื่องในวันรัฐธรรมนูญ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา นายอนุทิน ระบุว่า จุดยืนของภูมิใจไทยคือการเคารพรัฐธรรมนูญ เพราะได้รับฉันทานุมัติมาจากประชาชน ส่วนที่มีพรรคการเมืองบางพรรคจะแก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตราก่อนการเลือกตั้งนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้เวลา ถ้าดำเนินการจริงอาจกระทบต่อการเลือกตั้ง


อ้างตัดชื่อ-โลโก้พรรค ไม่ช่วย พปชร.

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ข้อเสนอการตัดชื่อและโลโก้พรรคการเมืองในบัตรเลือกตั้ง ซึ่งจะทำให้พรรคพลังประชารัฐได้เปรียบในการเลือกตั้งว่า ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องที่ได้เปรียบหรือเสียเปรียบ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐก็ติดตามเรื่องนี้อยู่ แต่เชื่อมั่นใน กกต.ว่าจะดำเนินการได้อย่างเป็นธรรม ไม่ว่าผลสรุปจะออกมาอย่างไรก็ต้องเกิดความเป็นธรรมกับทุกพรรคการเมือง เพื่อให้เกิดการเลือกตั้งที่เป็นธรรม ไม่ก่อให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ นั้นมีความพร้อมอยู่แล้วไม่ว่ารูปแบบจะออกมาหน้าตาอย่างไร

อุตตม-พลังประชารัฐ

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

สำหรับกระแสเรียกร้องให้รัฐมนตรีที่มีตำแหน่งในพรรคพลังประชารัฐ ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีหลังตารางทางการเมืองค่อนข้างมีความชัดเจนแล้วนั้น ยืนยันว่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ทั้ง 4 คน จะออกมาเพื่อปฏิบัติหน้าที่ทางการเมืองเพียงอย่างเดียว แต่วันนี้ทุกคนยังมีภารกิจที่ต้องทำเพื่อประเทศชาติ มีความตั้งใจจริงที่จะทำหน้าที่ให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ มิเช่นนั้นจะเกิดผลกระทบต่อประเทศ

ซึ่งในปัจจุบันเราก็ไม่ได้ทำอะไรที่หลุดออกไปจากกรอบ เวลาที่ทำงานในตำแหน่งก็ไม่ได้ทำงานพรรคการเมือง จึงไม่มีเรื่องที่ได้เปรียบพรรคการเมืองอื่น หลายคนที่ออกมาเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งก็อยากให้ดูที่การปฏิบัติด้วย เพราะมาตรฐานในอดีตกับมาตรฐานที่พวกเราทำนั้น ไม่เหมือนกันและสาธารณชนสามารถพิสูจน์ได้

ส่วนกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาทักท้วงว่าการที่พรรคพลังประชารัฐจะจัดโต๊ะจีนระดมทุน ในวันที่ 19 ธ.ค. 2562 ที่อิมแพค เมืองทองธานีนั้น ฝ่ายกฎหมายของพรรคดูแลอยู่ และได้ทำหนังสือถึง คสช.และ กกต.เพื่อขออนุญาตดำเนินการในส่วนนี้แล้ว