ไม่พบผลการค้นหา
กรมอุทยานแห่งชาติฯ เร่ง สร้างความเข้าใจผู้ประกอบการท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่การปิดอ่าวมาหยาและโล๊ะซามะไม่มีกำหนด เพื่อให้การฟื้นฟูทรัพยากรสำเร็จก่อนเปิดท่องเที่ยวอย่างสมบูรณ์ในอนาคต ขณะที่ผู้ประกอบการขอเปิด 5 เดือนสุดท้ายก่อนปิดยาว

นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วย นายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ลงพื้นที่ติดตามการฟื้นฟูระบบนิเวศป่าชายหาดและระบบนิเวศแนวปะการังบริเวณอ่าวมาหยาและสถานการณ์การท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ หลังประกาศขยายระยะเวลาปิดการท่องเที่ยว หรือดำเนินกิจกรรมบริเวณอ่าวมาหยาและอ่าวโล๊ะซามะออกไปไม่มีกำหนดเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติโดยรอบพื้นที่ 

โดย รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า จากการปิด 4 เดือนที่ผ่านมา พบทรัพยากรธรรมชาติฟื้นฟูเพียงเล็กน้อยจึงจำเป็นต้องขยายการปิดอ่าวมาหยาเพิ่ม จากการพิจารณามีแนวคิดจะปิดอ่าวมาหยาและอ่าวโล๊ะซามะประมาณ 1-3 ปี แต่ต้องศึกษาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ก่อน เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการท่องเที่ยว แต่สภาพระบบนิเวศของอ่าวมาหยายังคงอยู่ในขั้นวิกฤตและต้องเร่งฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบในระยะยาว หากเร่งเปิดท่องเที่ยวอาจทำให้อ่าวมาหยาเกิดผลกระทบซ้ำรอยเดิม เช่น แนวปะการังที่เพิ่งแตกกิ่งได้เพียงเล็กน้อยและทรายบริเวณชายหาดยังคงทรุดตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้ระบบนิเวศพังทลายอย่างถาวร 

ขณะที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เสนอให้กระจายนักท่องเที่ยวไปยังเกาะอื่นๆ แทน เพื่อให้อ่าวมาหยาสามารถฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมได้เต็มที่

ทั้งนี้ จากการปิดอ่าวมาหยาและเกาะต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยวได้เสียงตอบรับที่ดีจากต่างประเทศ เช่น กลุ่มนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของสหรัฐอเมริกา เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าวด้วย

ด้าน นายอมฤต ศิริพรจุฑากุล ตัวแทนผู้ประกอบการ กล่าวว่า รู้สึกกังวลว่าการขยายเวลาอ่าวมาหยาอย่างไม่มีกำหนดจะส่งผลกระทบการจองโปรแกรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จองโปรแกรมไว้เป็นปี เพื่อจะมาเที่ยวอ่าวมาหยาและที่พักต่างๆ ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวปลายปีนี้ อาจทำให้ความเชื่อมั่นการท่องเที่ยวไทยลดลง และกระทบต่อรายได้ของชาวบ้านในพื้นที่ จึงเสนอให้เปิดให้ช่วงการท่องเที่ยวฤดูกาลนี้ประมาณ 5 เดือนสุดท้าย ก่อนจะปิดอ่าวมาหยาในระยะยาว มั่นใจว่า ประชาชนและผู้ประกอบการพร้อมให้ความร่วมมือการปิดอย่างเต็มที่ เนื่องจากอ่าวมาหยาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดกระบี่และฝั่งทะเลอันดามัน

ขณะที่ นายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กล่าวย้ำว่า ตลอด 20 ปีที่ผ่านมาอ่าวมาหยาไม่เคยปิดฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติทั้งบนบกและชายหาดเลย จนการท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องสร้างความเสียหายและเสื่อมสภาพของทรัพยากรธรรมชาติบริเวณอ่าวมาหยาอย่างรุนแรง ในอนาคตจะเร่งสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการและชาวบ้านในพื้นที่ให้เข้าใจในบริบทดังกล่าว

ทั้งนี้ ในอดีตอ่าวมาหยาเคยเป็นอ่าวที่มีความสวยงามมากที่สุดติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลก แต่ปัจจุบันจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวมากขึ้นเกินขีดจำกัดและไร้การควบคุมดูแลส่งกระทบให้อ่าวมาหยาเกิดความเสื่อมโทรมจนติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลกแล้ว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง