เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 เม.ย. 2567 ที่อาคารรัฐสภา ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เข้ายื่นหนังสือต่อ ชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อตรวจสอบกรณีมีนายตำรวจ ยศ พล.ต.อ. ที่เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับบัญชีส่วย และบัญชีเว็บไซต์พนันออนไลน์ ซึ่งอาจเชื่อมโยงไปถึงครอบครัวด้วย
โดยทนายตั้ม กล่าวว่า ต้องขอบคุณผู้นำฝ่ายค้านฯ ที่เห็นความสำคัญของเรื่องนี้ นับตั้งแต่ตนออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ ก็มีแต่ผู้นำฝ่ายค้านฯ ที่ประสานขอข้อมูลการทุจริตคอรัปชั่น ตนอยากให้หน่วยงานทุกภาคส่วนของสังคม มีความกระตือรือร้น ในเรื่องปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งหลังจากนี้ จะมีการปรึกษากันว่า จะมีวิธีการแก้ไขปัญหาปัญหาเรื่องส่วย และการทุจริตคอรัปชั่นในวงการราชการ ซึ่งมีข้าราชการระดับสูงเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีไฟไหม้ฟางขึ้นอีก อยากให้มีวิธีการแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืนมากกว่านี้
ด้าน ชัยธวัช กล่าวว่า ขอบคุณที่นำเอกสารสำคัญมามอบให้กับเราในฐานะพรรคฝ่ายค้าน แน่นอนว่าเมื่อมีเรื่องราวการกล่าวหาว่า มีการทุจริตประพฤติมิชอบ โดยเฉพาะในวงการตำรวจเอง ไม่ว่าจะเรื่องส่วย หรือข้อมูลที่มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย เราในฐานะฝ่ายค้านก็ต้องให้ความสำคัญ ติดตามหาข้อมูล
ชัยธวัช กล่าวต่อว่า จริงๆ แล้ว คนที่ควรจะมาขอข้อมูลจากทนายตั้ม ควรจะเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะไหนๆ ท่านนายกฯ ก็ตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนเรื่องนี้แล้ว ก็ควรจะได้รับข้อมูลชุดนี้ด้วย เราเองในฐานะฝ่ายค้าน เราก็คาดหวังว่า คณะกรรมการที่ท่านนายกฯ ได้ตั้งขึ้น จะไม่เป็นกระบวนการที่เป็นเพียงแค่การหย่าสึก แล้วทำให้เรื่องจบเงียบๆ กันไป
ชัยธวัช ย้ำว่า เรายืนยันมาตลอดว่า เรื่องส่วย โดยเฉพาะวงการตำรวจนั้น เป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะเมื่อไหร่ที่เราไม่สามารถแก้ระบบส่วย และตั๋ว ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สนช.) ได้ ก็จะกระทบต่อการปฏิบัติภารกิจของตำรวจ ที่ควรจะให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัย และสวัสดิภาพของพี่น้องประชาชนเป็นอันดับแรกมากกว่าที่จะวิ่งเต้นหาลำไพ่พิเศษ เพื่อมาซื้อขายตำแหน่ง ส่วนข้อมูลที่ได้รับมานี้ จะสามารถนำมาอภิปรายได้หรือไม่นั้น ชัยธวัช กล่าวว่า ขอดูก่อนว่ามีอะไรบ้าง แต่น่าจะเกี่ยวข้องกับที่ทนายทนายตั้มเคยได้แถลงข่าวไปแล้ว
จากนั้น ทนายตั้ม จึงกล่าวเสริมว่า เมื่อฟังจากที่ผู้นำฝ่ายค้านฯ พูด ก็มีความมั่นใจมากขึ้น เพราะเท่ากับตอนนี้ผู้ใหญ่ของบ้านเมือง เริ่มเห็นความสำคัญกับเรื่องส่วย และเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นแล้ว การที่ท่านนายกฯ พยายามเชิญชวนให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทย แต่ในประเทศไทยเอง ยังมีปัญหานี้อยู่เรื่อยๆ ตนกลัวว่าต่างชาติจะไม่เชื่อมั่น