"สภาพพูมิอากาศโลกและความมั่นคงทางพลังงานคือเรื่องเดียวกัน" ริชี ซูนัค นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรกล่าวในสุนทรพจน์ระดับนานาชาติครั้งแรก หลังขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำ ที่งาน COP27 งานประชุมระดับโลกเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตโลกร้อนที่จัดขึ้นที่ประเทศอียิปต์ 

BBC รายงานว่าในงานดังกล่าวมีผู้นำประเทศมากกว่า 120 ประเทศเข้าร่วม โดยเป็นการปรึกษาหารือประเด็นสำคัญอย่างการส่งเงินสนับสนุนให้กับกลุ่มประเทศที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากมาตรการการรับมือกับปัญหาโลกร้อน

“สงครามที่น่ารังเกียจของประธานาธิบดีปูตินในประเทศยูเครนและราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นทั่วโลกไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้เราชะลอมาตรการการแก้ปัญหาโลกร้อนลง แต่มันคือเหตุผลที่เราจะต้องลงมือแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น” ซูนัคกล่าว

ขณะเดียวกันผู้นำจากนานาประเทศได้มีการกล่าวย้ำในสุนทรพจน์มากมายว่ากลุ่มประเทศร่ำรวยควรที่จะเดินหน้าผลักดันการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพพูมิอากาศอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะมีสถานการณ์สงครามในยูเครนและวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลกก็ตาม

"เรากำลังอยู่บนเส้นทางทางด่วนไปสู่นรกของสภาพพูมิอากาศโลก ขณะที่เท้าของเราก็กำลังเร่งสปีดมากยิ่งขึ้นไปสู่หายนะนั้น" อันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติกล่าว

เอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีของฝรั่งเศสได้กล่าวผลักดันให้ผู้นำโลก "สร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นกับสภาพพูมิอากาศให้ได้" ขณะที่ บอริส จอห์นสัน อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรได้กล่าวในที่ประชุมที่อียิปต์เช่นเดียวกันโดยย้ำว่า "ทุกประเทศไม่ควรอ่อนแอกับหนทางสู่การแก้วิกฤติโลกร้อน"

ด้าน โอลาฟ ชอลซ์ นายกรัฐมนตรีของเยอรมนีได้กล่าวย้ำด้วยว่า "การเปลี่ยนไปใช้พลังงานทางเลือกคือนโยบายที่มีความสำคัญจำเป็นต่อความมั่นคง" ขณะที่ จอร์เจีย เมโลนี ผู้นำคนใหม่ของอิตาลีระบุว่าประเทศของเธอ "ยังคงยึดมั่นอย่างแข็งแกร่งต่อแนวทางการแก้ปัญหาวิกฤตสภาวะโลกร้อน"