เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 25 ส.ค. ที่อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง (รมว.) กลาโหม ตรวจเยี่ยมพื้นที่โครงการนำร่องการนำยางพารามาใช้เพื่อปรับปรุงเพิ่มความปลอดภัยทางถนน (Kick off) ณ ทางหลวงหมายเลข 3249 กม. 3+146 ตอนควบคุม 0100 ตอนเขาไร่ยา-แพร่งขาหยั่ง ต.แสลง อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี
โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอให้ทุกคนภูมิใจในสิ่งที่ได้ร่วมมือกับรัฐบาลในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งวันนี้อะไรที่เราทำแล้วเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม นั่นคือ กำลังใจให้กับท่าน ส่วนกำลังใจของตน คือการได้รับความร่วมมือจากทุกคนในการทำงาน เพราะมีศรัทธาในการทำงานของรัฐบาลและรัฐมนตรีทุกกระทรวง รวมทั้งพลเรือน ตำรวจทหาร ทุกคนจำเป็นต้องรักษาวันนี้ให้ได้และโดยรัฐบาลนี้ด้วย เพราะเราจำเป็นต้องรักษาสถานการณ์การแพร่ระบาดและสถานการณ์เศรษฐกิจที่ตกต่ำ เราแก้ปัญหาเดิมๆ ที่เกิดขึ้น
"ในสมัยก่อนที่ผ่านมาท่านคงทราบดีอยู่แล้ว ว่าท่านได้อะไรมาแล้วบ้างแล้วจะได้อะไรต่อไปไม่มีอะไรที่จะได้มาในวัน-เวลาเดียว หรือปีเดียว เหมือนกับเรามีลูกกว่าลูกจะจบ วันหนึ่งก็จะเรียนหนังสือจบต้องใช้เวลา 19 ปี 20 ปี เค้าถึงจะโตมาแล้วก็ออกจากพ่อแม่ ไปบุตรมีภรรยาของเค้า นั่นคือสถาบันครอบครัว ในฐานะความเป็นไทย อัตลักษณ์ของไทย ลูกไม่มีพ้นอกพ่อแม่อยู่แล้ว ยังไงเค้าลำบากเค้าเดือดร้อน เค้าก็ต้องกลับมาหาพ่อแม่อยู่ดี
"สังคมตอนนี้ประกอบไปด้วยการเรียนรู้ การศึกษา ครูบาอาจารย์เป็นที่เราต้องคำนึงถึงเสมอไป นี่คือสังคมไทย เอกลักษณ์ความเป็นไทย สัญลักษณ์แห่งการพูดคุยกัน สัญลักษณ์แห่งการประนีประนอม สัญลักษณ์แห่งการไม่สร้างความขัดแย้งซึ่งกันและกัน เราก็กลับไปที่เก่าเวลาเดิม เหมือนเดิมทุกประการมันมีรอยเท้า รอยประสานอยู่แล้ว" นายกรัฐมนตรี กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ฝากทุกคนว่า ตอนนี้เรากำลังเดินหน้าประเทศของเราในทุกมิติ สถานการณ์ความขัดเเย้งในโลกใบใหญ่ของเรา สถานการณ์โควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อหลายล้านคน ตายหลายแสนคน ประเทศไทยมีคนตายในหลักสิบ นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดในประเทศไทยอยู่แล้วอย่าไปทำลายในสิ่งที่ดี ทุกคนต้องมีภูมิต้านทาน มีเหตุมีผลมีความพอประมาณ ภูมิคุ้มกันด้วยความรู้คุณธรรมพระเจ้าอยู่หัว
ท่านทรงพระราชทานไว้แล้ว มีเหตุมีผล มีความพอประมาณ เราก็ต้องยืนยันที่จะทำหน้าที่เหล่านี้ต่อไป เพราะนี่คือแผ่นดินของเรา แผ่นดินของคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะเชื้อชาติศาสนาใด เราต้องรักแผ่นดินผืนนี้ นี่คือความมุ่งมั่นของทุกคน เราคือคนของประเทศนี้ เราต้องสืบสาน รักษา ต่อยอด สิ่งที่ดีๆ สิ่งที่มันดีแล้วก็ให้มันดีต่อไป ปัญหาต่างๆมันแก้ได้หมด ด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน จากการเจรจาพูดจาหารือกัน
ช่วงหนึ่งนายกรัฐมนตรี ได้ขอให้ประชาชนที่มาร่วมพิธีเปิดงานในวันนี้ เปล่งเสียงพร้อมกันว่า “รวมไทยสร้างชาติ” พร้อมกล่าวว่า เวลานี้ทั่วโลกรู้ว่าประเทศไทยทำอะไร เขาชื่นชมเรื่องการแก้ปัญหาโควิด อะไรก็ตามที่ทำในประเทศรู้ไปถึงต่างประเทศ ถ้าสถานการณ์รุนแรงขึ้น การลงทุนต่างๆยุติทั้งหมด แล้วถามว่าจะอยู่กันอย่างไร สังคมเราแค้นกันมากๆ จะอยู่กันอย่างไร ต้องเดินหลบไปหลบมาหรือ
"ผมพร้อมให้อภัยทุกคน ทุกคนก็พร้อมให้อภัยผม นี่คือสังคมความเป็นไทย บ้านเมืองเรามีอยู่สามอย่าง 1.รอยยิ้มที่สดใส 2.อาการกินอร่อย 3.ธรรมชาติสวยงาม 3 อย่างนี้คืออัตลักษณ์ความเป็นไทย มีสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นแกนหลักของประเทศ เป็นมายาวนานตั้งแต่บรรพบุรุษ บรรพบุรุษของเราเสียเลือดเนื้อไปตั้งเท่าไหร่ เราไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ได้ ประเทศเรายาวนาน 800 ปี เราจะเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของประเทศด้วยฝ่ามือเป็นหลังมือมันทำไม่ได้หรอกครับ"
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า "ผมคิดว่าคนไทยทั้งประเทศ คงไม่ยอมในเรื่องเหล่านี้ เพราะฉะนั้นขอฝากไว้ด้วย การพูดจาต่างๆในสื่อในโซเชียล กรุณามีภูมิคุ้มกันนิดนึง ว่าพูดเพื่อหวังผลอะไร ต้องการให้เราไม่มีความสุขหรือเปล่า ถ้าให้ดีก็อย่าไปอ่าน อย่าไปโพสต์ อย่าไปแพร่ให้ก็จะสบายใจขึ้น แต่รัฐบาลจะไปฟัง ฟังคนรุ่นใหม่ ฟังคนรุ่นเก่ารุ่นพ่อแม่ ฟังคนพิการคนเปราะบางไม่ใช่ไม่ฟัง ถ้าทำผิดกฎหมาย กฎหมายก็ต้องทำหน้าที่ของเขาผมไม่จำเป็นต้องไปสั่งใครทั้งสิ้น วันนี้ผมใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างระมัดระวังมากที่สุด หน่วยงานก็มีหน้าที่รักษากฎหมาย เพราะฉะนั้นต้องพยายามไม่ให้เกิดผลกระทบ ไม่ให้ใครไปบิดเบือน ไม่ให้ไปใช้ประโยชน์ในทางที่ไม่ดีไม่ถูกต้อง"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯ กล่าว่า คนไทยทั้งประเทศต้องรักษาประเทศไว้ให้ได้ แผ่นดินนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ จำไว้จำคำพูดตนไว้ ใครที่ไม่อยู่ในเเผ่นดินนี้ แล้วทำลายประเทศ ไม่มีวันอยู่เย็นเป็นสุข ตนไม่ได้ไปสร้างความเกลียดชังกับใคร แต่หลายคนสร้างความเกลียดชังให้กับประเทศของตัวเอง ทั้งที่เกิดเเผ่นดินนี้ พ่อแม่ก็เกิดที่นี่ จึงไม่เข้าใจว่าจิตใจเขาทำด้วยอะไร วันนี้ตนเองยินดีจะพูดคุยร่วมกับทุกคน วันนี้พูดคุยกับนักเรียนนักศึกษาก็เข้าใจกันดี พรรคร่วมรัฐบาลก็เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน พรรคฝ่ายค้านก็พร้อมร่วมมือในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ต้องหาเวลาที่จะทำให้ประเทศเดินหน้าไปให้ได้เพราะมีคนจ้องใช้โอกาศนี้ในการที่จะจ้องทำลายประเทศ