วิทยาศาสตร์
เฌอปราง BNK48: การทดลองคือ ‘งานวิจัย’ ที่อยู่ไม่ไกลตัว
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) จัดงานประชุมวิชาการ “โครงการพัฒนานักวิจัยและงานวิจัยเพื่ออุตสาหกรรมครั้งที่ 4” ภายใต้หัวข้อ “ทลายหิ้งงานวิจัยด้วยกลยุทธ์นวัตกรรม” ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
โดยมีตัวแทนคนรุ่นใหม่ ขวัญใจเหล่าโอตาคุ 'เฌอปราง อารีย์กุล’ จากวง BNK48 ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง ที่ปัจจุบันศึกษาอยู่ในชั้นปีที่ 4 วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเคมี โชว์วิสัยทัศน์ในหัวข้อ “คนรุ่นใหม่กับงานวิจัย”
'เฌอปราง' เล่าถึงการเข้าไปเกี่ยวข้องกับงานวิจัยตอนปี 2 ว่า เริ่มสนใจที่จะคิดเรื่องโปรเจกต์จบ จึงได้เข้าไปพูดคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษา โดยอาจารย์ได้แนะนำให้เรียนรู้และช่วยเหลือในการทำวิจัยของรุ่นพี่
โดยตนได้เข้าไปมีส่วนร่วมที่เกี่ยวกับงานวิจัยด้านเคมี และได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับการทดลองผลวิจัยจริงตามแบบจำลอง ซึ่งงานชิ้นดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ อีกหนึ่งงานที่ตีพิมพ์คืองานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนเรื่องปฏิกิริยาเคมี โดยให้นักเรียนทดลองในการสอนในห้องแล็บวิทยาลัยนานาชาติ
ส่วนประสบการณ์หลังจากได้เข้าร่วมงานวิจัยที่ประเทศอังกฤษ ในครั้งนั้นเฌอปรางได้เจอผู้คนที่สนใจเรื่องวิทยาศาสตร์ และดีใจที่เจอกลุ่มคนที่มีแนวคิดเดียวกัน ซึ่งถือเป็นการสร้างเครือข่ายสำหรับนักวิทยาศาสตร์ไทยและนักวิทยาศาสตร์จากต่างประเทศ และอยากเป็นส่วนหนึ่งในการจุดประกายสร้างความสนใจให้กับคนรุ่นใหม่เรื่องงานวิจัยให้ได้รับรู้ในวงกว้าง
สำหรับความสนใจในงานวิจัย เฌอปรางเล่าวว่ามีความฝันว่าอยากทำอาชีพนักวิจัย ตั้งแต่ ม.ปลาย เพราะไม่รู้ว่ามีอาชีพนี้อยู่ ต่อมาได้มีโอกาสทำงานโครงงานเกี่ยวกับบำบัดน้ำเสียและเอทานอลจากใบไม้ ซึ่งเป็นการสร้างการเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมและพลังงาน และนี่คือการปลูกฝังให้อยากเข้าศึกษาต่อคณะวิทยาศาสตร์ และปัจจุบันได้จัดทำงานวิจัยเกี่ยวกับด้านคอมพิวเตอร์ เพราะเชื่อว่าอนาคตทุกคนต้องมีชีวิตที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี คาดว่าจะทำให้เสร็จภายในสองเดือน และหวังว่างานชิ้นนี้จะทำให้เกิดประโยชน์
"ถึงแม้ว่าเฌอไม่ใช่คนเรียนเก่ง ไม่ใช่ระดับท็อปในการเรียน แต่เฌอชดเชยด้วยการทำงาน และอยากสนับสนุนงานวิจัย เพราะเป็นสิ่งที่ได้ลงมือทำและได้ทดลองอะไรใหม่ๆ” เฌอปราง กล่าว
ทั้งนี้ เฌอปราง มองว่าการทำงานในวงการบันเทิงเหมือนการเรียนรู้ใหม่ เช่นเดียวกับงานวิจัยที่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ และเป็นเรื่องสนุกในการทดลอง และหวังว่าคนรุ่นใหม่จะให้ความสนใจด้านวิทยาศาสตร์มากขึ้น เรียนรู้กับมัน คิดวิเคราะห์และเชื่อมโยง ถ้าเราเต็มที่กับมันมันจะทำให้เราติดตามและอัปเดตเรื่องที่สนใจตลอดเวลา
"เพราะงานวิจัยไม่จำกัดแค่นักวิจัย ถ้าคนทุกอาชีพสามารถพัฒนาต่อยอด มันก็น่าจะดีกว่าถ้าเรามีงานของเรา"
ขณะที่ ศ.นพ.สุทธิพันธ์ จิตพิมลมาศ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสนับสนุนงานวิจัย กล่าวว่าวันนี้เป็นนิมิตรหมายอันดีที่มีผู้ให้ความสนใจด้านนวัตกรรมที่จะช่วยสร้างแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และยกระดับพัฒนาขีดความสามารถด้านอุตสาหกรรม
โดยมีการให้ทุนจำนวน 1,300 กองทุน โดยมีการใช้งบประมาณ 1,140 ล้านบาท นับตั้งแต่ริเริ่มการให้ทุนตั้งแต่ปี 2556 โดยหวังเป็นอย่างยิ่งจะมีการแลกเปลี่ยนความรู้ จนนำไปสู่การจุดประกายความรู้
ด้าน ดร.นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ รองปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวถึงนโยบายและโมเดลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ว่า ปัจจุบันรัฐบาลมีแผนพัฒนากำลังคนเพื่อเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0 โดยใช้การกระจายโอกาส เพื่อขับเคลื่อนประเทศให้มั่นคงและยั่งยืน ด้วยกรอบแนวคิดให้สอดคล้องเพื่อพัฒนาคนรองรับในภาคเอกชน และส่งเสริมและเพิ่มคุณภาพบุคลากรในภาคอุตสาหกรรม โดยวางเป้าหมายเพิ่มผู้เรียนในสายวิทย์ เพราะเป็นต้นทางสร้างแรงบันดาลใจและสร้างการเรียนรู้การทดลองตั้งแต่ระดับเยาวชนจนถึงระดับปริญญา โดยมีการสนับสนุนทุนจากรัฐบาลเพื่อสร้างนักวิทย์รุ่นใหม่
ทั้งนี้ ภายในงานยังมีการนำผลงานงานวิจัยของนักศึกษาปริญญาโทและปริญญาเอก ที่ได้รับการสับสนุนทุนผู้ช่วยวิจัย จำนวน90 ผลงาน โดยจัดกลุ่มตามสาขาอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งหมด7สาขา ประกอบไปด้วย
- กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและแปรรูปอาหาร
- กลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ
- กลุ่มอุตสาหกรรมยาและสมุนไพร วิทยาศาสตร์การแพทย์และเครื่องสำอาง
- กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน สิ่งแวดล้อม และปิโตรเลียม
- กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องจักรโลหะ ยานยนต์และขนส่ง
- กลุ่มอุตสาหกรรมวัสดุศาสตร์และวัสดุก่อสร้าง
- กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
