ไม่พบผลการค้นหา
โป๊ปฟรานซิสพบนางซูจี เพื่อหารือเกี่ยวกับการกดขี่ชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ ที่ทำให้เกิดวิกฤตผู้ลี้ภัย โดยเลี่ยงการใช้คำว่า 'โรฮิงญา'

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกเสด็จไปพบนางอองซาน ซูจี มุขมนตรีแห่งรัฐของเมียนมา เพื่อหารือเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิชาวโรฮิงญา ซึ่งทำให้มีชาวโรฮิงญาลี้ภัยไปยังบังกลาเทศมากกว่า 623,000 คน แต่โป๊ปกลับหลีกเลี่ยงที่จะใช้คำว่า 'โรฮิงญา' เพียงแต่ระบุว่า คนในเมียนมายังคงทุกข์ทรมานจากความขัดแย้ง

โป๊ปทรงระบุว่า อนาคตของเมียนมาต้องเกิดสันติภาพที่เกิดจากความเคารพศักดิ์ศรีและสิทธิของคนในสังคม เคารพต่อกลุ่มชาติพันธุ์และอัตลักษณ์ของพวกเขา เคารพต่อหลักนิติธรรม และเคารพหลักการประชาธิปไตยที่จะให้ประชาชนทุกกลุ่มมีส่วนร่วมอย่างชอบธรรมในการสร้างความดีร่วมกัน

https://ichef.bbci.co.uk/images/ic/720x405/p05pch9d.jpg

การเลี่ยงใช้คำว่า "โรฮิงญา" เป็นไปตามคำแนะนำของพระคาร์ดินัลของเมียนมาและผู้เชี่ยวชาญหลายคนว่า การใช้คำว่า โรฮิงญา อาจทำให้ชาวพุทธในเมียนมาไม่พอใจ จนเกิดความขัดแย้งระหว่างชาวพุทธกับชาวคริสต์ ที่มีอยู่ประมาณร้อยละ 6.3 ของประชากรในเมียนมา

ก่อนหน้านี้ พลเอกอาวุโสมินอ่องหล่ายน์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมาเปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า เขายืนยันต่อโป๊ปฟรานซิสว่า เมียนมาให้อิสรภาพประชาชนในการนับถือศาสนาอย่างเต็มที่ และไม่มีการกดขี่ทางศาสนาแต่อย่างใด แต่ไม่มีรายงานว่า โป๊ปฟรานซิสทรงตอบโต้ว่าอย่างไรบ้าง ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ก็มองว่า การเข้าพบพลเอกอาวุโสมินอ่องหล่ายน์ครั้งนี้อาจเข้าทางกองทัพเมียนมา ที่ต้องการบอกกับทั่วโลกว่า โป๊ปฟรานซิสมีพระประสงค์จะไปพบพลเอกอาวุโสมินอ่องหล่ายน์ด้วยพระองค์เอง

นอกจากนี้ สภาเมืองอ็อกซ์ฟอร์ดลงมติให้ยึดรางวัลเสรีภาพแห่งอ็อกซ์ฟอร์ดคืนจากนางซูจี ซึ่งเป็นสิ่งที่สภาไม่เคยทำมาก่อน โดยให้เหตุผลว่าเมืองอ็อกซ์ฟอร์ดให้ความสำคัญกับการเป็นเมืองที่มีความหลาก หลายและมีมนุษยธรรม และการให้รางวัลอันทรงเกียรตินี้กับผู้ที่นิ่งเฉยต่อความรุนแรงทำให้ชื่อเสียงของสภาต้องเสื่อมเสีย