ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ร่วมรณรงค์หาเสียงให้กับ ศรัญ ฤกษ์อัตการ ผู้สมัครนายก อบจ. นครสวรรค์ เบอร์ 1 พร้อมทีมผู้สมัคร ส.อบจ. บรรยากาศการหาเสียงช่วงเช้า เริ่มต้นโดยการขึ้นรถแห่วนไปรอบๆ ตัวเมืองผ่านตลาดเช้า จากนั้นเดินทางต่อไปยัง ต.ทับกฤช อ.ชุมแสง เดินรณรงค์ให้ประชาชนออกไปเลือกตั้งท้องถิ่นพร้อมแนะนำตัวนายศรัญและนโยบายแก่ประชาชนที่สัญจรไปมา ทั้งนี้ ขณะที่คณะก้าวหน้านำโดยธนาธร และศรัญ กำลังรณรงค์หาเสียงอยู่นั้น ได้มีคนพยายามก่อกวนการหาเสียงโดยการขับรถตามพร้อมบีบแตรใส่ และเมื่อคณะก้าวหน้าเดินลงหาเสียงที่ตลาด ก็ได้ลงเดินตามมาพูดด่าทอด้วยข้อความหยาบคายโจมตีใส่ร้าย ทั้งนี้กลุ่มคนดังกล่าวมีเพียงไม่กี่คนแต่ใช้โทรโข่งขยายเสียงเดินป่าวประกาศใส่ในระยะประชิดตัว เป็นการก่อกวนอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ประชาชนซึ่งรอต้อนรับให้กำลังใจธนาธรและทีมงานมีเป็นจำนวนมาก ทำให้บางครั้งก็มีปากเสียงใส่กันบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม ธนาธรยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าช่วยผู้สมัครนายก อบจ.หาเสียงต่อไป
ธนาธร ระบุว่า ตนตั้งใจมาหาเสียง แต่กลับถูกก่อกวนระรานทำให้เดินเข้าไปหาประชาชนไม่ทั่วถึง พร้อมทั้งตั้งคำถามอีกว่า การกระทำแบบนี้เป็นการจงใจก่อกวนและผิดกฎหมายหรือไม่ นอกจากนี้ตนยังรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับคนกลุ่มนี้ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นของวานนี้ (8 ธ.ค.) ที่ จ.สมุทรสาคร ธนาธร เดินทางมาช่วยรณรงค์หาเสียงให้กับ อวยชัย จาตุรพันธ์ ผู้สมัครนายก อบจ.สมุทรสาคร เบอร์ 4 พร้อมทีมผู้สมัคร ส.อบจ. เริ่มต้นที่ตลาดบริเวณหน้าหมู่บ้านอมรชัย 5 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองสมุทรสาคร ก่อนที่จะขึ้นรถแห่วนเข้าไปยังหมู่บ้านวิเศษสุขนคร จากนั้นเดินทางต่อไปยังตลาดนัดโพธิ์ทองและตลาดโพธิ์แจ้ ต.คอกกระบือ อ.เมืองสมุทรสาคร บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ทั้งพ่อค้าแม่ขายในตลาดไปจนถึงประชาชนที่อยู่สองข้างทางระหว่างรถแห่หาเสียงขับผ่านต่างให้การตอบรับเป็นอย่างดี
ธนาธร กล่าวว่าตอนหนึ่งระหว่างเดินหาเสียงว่า คณะก้าวหน้าเราทำงานยึดแนวทางพรรคอนาคตใหม่เดิม โดยมีจุดยืนในการที่จะรณรงค์เลือกตั้งที่ไม่ซื้อสิทธิขายเสียง เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการทุจริตคอรัปชั่น หมดเวลาสำหรับการเมืองเก่าที่ใช้เงินซื้อหัวคะแนน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งระดับชาติ หรือการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 20 ธ.ค. นี้ และมีแต่การเมืองใหม่ การเมืองที่แข่งขันกันที่นโยบายเท่านั้น ที่จะพัฒนาประเทศไทยไปข้างหน้าได้ อยากให้พี่น้องประชาชนทุกท่านร่วมกันรณรงค์ต่อต้านการเมืองที่ซื้อเสียง โดยการไม่รับเงินที่เขาแจก ไม่เช่นนั้นสังคมไทยจะไม่สามารถหลุดพ้นจากระบอบเผด็จการได้ อนาคตของท่านขึ้นอยู่กับปลายปากกาในคูหาการเลือกตั้ง ว่าจะเหมือนเดิมหรือเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าท่านอยากเปลี่ยนแปลงขอโอกาสให้คุณอวยชัย ผู้สมัครนายก อบจ. สมุทรสาคร เบอร์ 4 เข้าไปบริหารสมุทรสาคร ขอโอกาสให้คณะก้าวหน้าได้เข้าไปขับเคลื่อนในทุกจังหวัดที่เราส่งลงแข่งขันเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้
ด้าน อวยชัย กล่าวว่า งบประมาณของ อบจ. สมุทรสาคร ที่มาจากภาษีประชาชนมีกว่า 880 ล้านบาท หากตนได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้เข้าไปบริหาร ตนจะบริหารจัดการงบประมาณให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และที่สำคัญการจัดการงบประมาณนั้นต้องมีส่วนร่วมกับประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ หนึ่งในนโยบายที่เราคิดคือการออกแบบการคมนาคมทางน้ำ โดยจะจัดทำเรือเมล์ในคลองภาษีเจริญ เชื่อมระหว่างกระทุ่มแบนเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเป็นการเพิ่มตัวเลือกให้กับประชาชนในการเดินทาง และยังช่วยลดปัญหาจราจรติดขัดบนถนนเพชรเกษมอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากนั้น ธนาธรเดินทางต่อไปที่ จ.นครปฐม ร่วมรณรงค์หาเสียงให้กับชัชวาล นันทะสาร ผู้สมัครนายก อบจ.นครปฐม เบอร์ 1 และทีมผู้สมัคร ส.อบจ. ที่ตลาดดิโอโซน อ.บางเลน จ.นครปฐม และตลาด ธกส. ดอนตูม อ.ดอนตูม ก่อนที่จะขึ้นรถแห่หาเสียงต่อบริเวณมหาวิทยาลัยเกษตร วิทยาเขตกำแพงแสน โดยในการปราศรัยทักทายกับพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนในตลาด ธนาธร กล่าวตอนหนึ่งว่า การเลือกตั้งทุกครั้งสำคัญกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เพราะเป็นการเลือกผู้นำแต่ละระดับเข้าไปบริหารภาษีของเรา อยากเชิญชวนเลือกชัชวาล นันทะสาร ผู้สมัครนายก อบจ.นครปฐม เบอร์ 1 เข้าไปสร้างความเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ธนาธร ยังเล่นมุกด้วยการชูแผ่นผับโบรชัวร์หาเสียงแล้วกล่าวว่า "พ่อแม่พี่น้องไม่ต้องเขย่านะครับ ไม่ได้แนบเงินเอาไว้ด้วย เราไม่ซื้อสิทธิ์ซื้อเสียง เราเชื่อว่ามีแต่การทำงานการเมืองโปร่งใสเท่านั้นที่จะสร้างชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้นได้"
ธนาธร ยังย้ำด้วยว่า เราตั้งใจที่จะทำงานการเมืองแบบโปร่งใส ซึ่งการที่จะได้มาสักหนึ่งคะแนนนั้นยากลำบาก เราต้องเดินเข้าไปบอกประชาชนถึงตลาดหรือหน้าบ้าน ในการแสดงความตั้งใจจริงของเรา สำหรับจังหวัดนครปฐมนั้น เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีการผูกขาดการเมืองท้องถิ่นมาอย่างยาวนาน และนี่คือเวลาของการเปลี่ยนแปลง และมีแต่การเมืองใหม่ การเมืองที่โปร่งใสเท่านั้น ที่จะพัฒนานครปฐมได้ เชื่อว่าพ่อแม่พี่น้องคงไม่อยากให้ลูกหลานเติบโตมาในสังคมที่มีผู้มีอิทธิพลกดขี่และผูกขาดเป็นธุรกิจการเมือง ซึ่งคงไม่ต้องบอกว่า บ้านใหญ่ ในจังหวัดนี้เป็นใคร การเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลง อย่ากลัวอิทธิพล อย่ากลัวระบบอุปถัมภ์ จงออกไปเลือกตั้งด้วยความกล้าหาญ อนาคตจังหวัดนครปฐมจะเป็นอย่างไร อยู่ที่การตัดสินใจของประชาชนทุกคน
ชัชวาล กล่าวว่า ด้วยงบประมาณที่มีกว่า 1,000 ล้านบาท ของ อบจ.นครปฐม สามารถเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปได้ไกลกว่านี้อีกมาก ตนตั้งใจทำการเมืองอย่างโปร่งใส และหนึ่งในนโยบายที่ตนตั้งใจจะทำหากได้รับโอกาสเข้าไปบริหารจังหวัดนครปฐมก็คือ การสร้างเว็บไซต์เพื่อทำระบบให้ประชาชนสามารถตรวจสอบการใช้งบประมาณได้ตลอดเวลา นอกจากนี้จะถ่ายทอดสดการประชุมสภา อบจ. เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการทำงานของ อบจ. ได้ง่ายและรวดเร็วที่สุด