วันที่ 23 พ.ย ที่กระทรวงการต่างประเทศ กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มฮามาสจะปล่อยตัวประกัน 50 คน ว่า การปล่อยตัวประกันส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก เป็นการแลกตัวกันระหว่างผู้ต้องขังชาวปาเลสไตน์ 150 คน กับตัวประกันที่กลุ่มฮามาสจับไป 50 คน คาดว่าการปล่อยตัวจะมีขึ้นในวันที่ 23 พ.ย. หรือ 24 พ.ย. แต่ยังไม่ทราบข้อมูลว่าการปล่อยตัวประกันจะมีคนไทยรวมอยู่ด้วยหรือไม่
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวในโลกออนไลน์ว่าตัวประกันหญิงชาวไทย 1 คนตั้งครรภ์นั้น กาญจนา กล่าวว่า ทางกระทรวงขอชี้แจงว่าสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ได้ติดตามข้อมูลเกี่ยวกับตัวประกันชาวไทย รวมถึงได้สอบถามจากครอบครัวของหญิงชาวไทยรายนี้แล้ว ยืนยันว่าหญิงไทยคนดังกล่าวไม่ได้ตั้งครรภ์ ดังนั้นข่าวลือที่เผยแพร่ดังกล่าวจึงไม่เป็นความจริง
กาญจนา กล่าวอีกว่า สถานเอกอัครราชทูตยังคงติดตามเรื่องตัวประกันชาวไทยอย่างใกล้ชิด อีกทั้ง น.ส.พรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ จะรีบเดินทางกลับอิสราเอลทันทีหลังจากเสร็จสิ้นการร่วมประชุมเอกอัครราชทูตไทย และกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลก ประจำปี 2566 เพื่อกลับไปติดตามสถานการณ์ในอิสราเอล หากมีการดำเนินการใดๆ เพิ่มเติมในอนาคต
ส่วนกรณีที่ อะลี บากิรี คานี รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศ ด้านการเมืองของประเทศอิหร่าน เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 22-23 พ.ย.นี้
กาญจนา กล่าวว่า รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศอิหร่านจะได้พบปะหารือกับ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ซึ่งเชื่อว่าจะได้พูดคุยถึงสถานการณ์ในประเทศอิสราเอล และการช่วยเหลือตัวประกันชาวไทยด้วย