นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภาฯ 35 กล่าวถึงวาระครบ 28 ปี พฤษภาทมิฬ ปี 2535 ว่า ในวันที่ 17 พ.ค.นี้ จะมีญาติวีรชนบางส่วนมาใส่บาตรพระสงฆ์ และย้ายอัฐิวีรชนที่สวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม ถนนราชดำเนิน ไปไว้ที่วัดชนะสงคราม ระหว่างที่มีการปรับปรุงอนุสรณ์สถาน ไม่มีการจัดงานใหญ่ดังเช่นทุกปี
นอกจากนี้นายอดุลย์ ยังระบุถึงการทวงถามความจริงและเรียกร้องความยุติธรรมของญาติวีรชน "เมษา-พฤษภา 2553" ที่ครบรอบ 10 ปีในปีนี้ว่า เป็นสิ่งที่ยังต้องทำ เพราะความจริงยังไม่ปรากฏ และผู้มีอำนาจไม่ควรขัดขวาง โดยเชื่อว่าหากผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามผู้ชุมนุม ออกมายอมรับผิดทางญาติวีรชนก็พร้อมที่จะให้อภัย อย่างที่ญาติวีรชนปี 2535 ได้อโหสิกรรมให้ผู้เกี่ยวข้องที่ออกมาขอโทษประชาชนแล้ว แต่กรณีปี 2553 ที่ผ่านมา ฝ่ายผู้มีอำนาจโดยเฉพาะรัฐบาล คสช.เป็นต้นมา นอกจากไม่ยอมรับผิดหรือแสดงความเสียใจแล้ว ยังขัดขวางการค้นหาความจริงและขัดขวางกระบวนการยุติธรรมอีกด้วย
นายอดุลย์ ยังฝากถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า ควรพิจารณาลงจากอำนาจได้แล้ว เพราะนอกจากไม่มีความสามารถในการบริหารประเทศอย่างเพียงพอ ยังมีการอุ้มพวกพ้องขณะที่ประชาชนกำลังทุกข์ยาก ที่สำคัญอย่าคิดใช้สถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด หรืออ้างความเห็นของแพทย์ในการขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อการครองอำนาจต่อไป
โดยเชื่อว่าหากสถานการณ์ภายใต้การปกครองของรัฐบาลยังเป็นอย่างที่ผ่านมาและไม่มีการเปลี่ยนผู้นำ จะเกิดการลุกฮือของประชาชนออกมาขับไล่ เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง โดยไม่ได้เป็นการเดินขบวนหรือชุมนุมที่มีแกนนำ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงหรือรัฐบาลจะจัดการไม่ได้ อาจนำสู่การจลาจลที่ไร้การควบคุมเป็นภาวะกลียุค ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จึงต้องพิจารณาตัวเองให้ถี่ถ้วน โดยเฉพาะในประเด็นที่ว่าการเข้าสู่อำนาจอาจเหมาะสมในช่วงแรก แต่การสืบทอดและครองอำนาจยาวนานนั้นไม่เหมาะสมอีกแล้ว
อ่านเพิ่มเติม