ไม่พบผลการค้นหา
ภาคเอกชน 3 สถาบัน ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 2563 โอกาสฟื้นตัวยาก หั่นจีดีพีทั้งปีติดลบร้อยละ 5 พร้อมตั้งคณะทำงานศึกษาประเด็นเข้าร่วม CPTPP คาด 17 พ.ค. ห้างสรรพสินค้ากลับมาเปิดดำเนินการได้ทั้งหมด

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งในไทยและต่างประเทศ เป็นปัจจัยฉุดเศรษฐกิจไทยอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรก บ่งชี้ถึงการหดตัวลงของแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในแทบทุกด้าน มีเพียงการใช้จ่ายของผู้บริโภคในหมวดสินค้าจำเป็นที่ยังขยายตัวได้

โดยในไตรมาส 1/2563 คาดว่า จีดีพีจะติดลบอยู่ที่ร้อยละ 5 ซึ่งทั้งปีจะติดลบในกรอบร้อยละ 3-5 ส่วนการส่งออก อาจจะหดตัว 0 ถึงลบร้อยละ 10 และอัตราเงินเฟ้อทั่วไป อยู่ในกรอบ 0 ถึงลบร้อยละ 1.5

กกร แถลง
  • สุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)

อย่างไรก็ตาม ภายใต้สมมติฐานที่ประเมินว่าจะไม่เกิดการระบาดระลอกใหม่ทั้งในไทยและต่างประเทศ และภาครัฐทยอยผ่อนปรนการดำเนินกิจการเพิ่มเติมตามลำดับ ที่ประชุม กกร. มองว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะค่อยๆ กลับมาดีขึ้นหรือฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดได้ในปี 2564 แต่ในปีนี้เป็นเรื่องยากที่จะมีการฟื้นตัว

ทั้งนี้ในประเด็นของ CPTPP กกร. มีความเห็นว่า ขอให้ตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยให้มีทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยในเนื้อหา และจุดยืนในการเจรจาครั้งนี้ ว่าประเทศจะได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์ในเรื่องใดบ้าง และจะมีการตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อหาข้อสรุปในประเด็นต่างๆ ภายใน 1 เดือน

ด้านนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภายหลังจากมีการประกาศผ่อนปรน 6 กิจกรรม เฟสแรก ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา อาทิ ร้านอาหาร ตลาด ร้านตัดผม กิจการค้าปลีก กีฬาสันทนาการ มีผลประเมินน่าพอใจ ก็มีความเป็นไปได้ที่ธุรกิจอีกจำนวนหนึ่งน่าจะได้รับความเห็นชอบกลับมาเปิดประมาณวันที่ 17 พ.ค. หรือครบ 14 วัน ในเฟสต่อไปมีความเป็นไปได้ที่ห้างสรรพสินค้าจะกลับมาเปิดให้บริการได้ แต่ทั้งหมดก็ยังขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศูนย์บริหารโควิด (ศบค.) 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :