เมื่อสัปดาห์ก่อน มัสก์ได้รับการประกาศให้เป็นบุคคลแห่งปีโดยนิตยาสาร Time ทำให้กระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่เลี่ยงภาษีเป็นอันดับต้นๆ ของสหรัฐฯ ในขณะที่มัสก์มีสถานะเป็นผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก โดยเขามีมูลค่าสินทรัพย์รวมกว่า 2.4 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 8 ล้านล้านบาท)
หลังจากการประกาศให้มัสก์เป็นบุคคลแห่งปีโดย Time อลิซาเบธ วอร์เรน วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต ได้ทวีตข้อความตอบโต้ต่อการยกย่องมัสก์ในครั้งนั้นว่า “เรามาร่วมกันแก้กฎหมายภาษี เพื่อที่ ‘บุคคลแห่งปี’ จะได้จ่ายภาษีจริงๆ และหยุดใช้เงินของคนอื่น”
ด้วยข้อความดังกล่าว จึงทำให้มัสก์ออกมาทวีตตอบโต้ว่าเขาเตรียมจ่ายภาษีมูลค่ามหาศาลในปีนี้ อย่างไรก็ดี มัสก์ ตลอดจน เจฟฟ์ เบโซส์ และมหาเศรษฐีรายอื่นๆ ที่มีการทำธุรกิจอยู่ในสหรัฐฯ ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอดว่าพวกเขาไม่ได้จ่ายภาษีเลยแม้แต่แดงเดียว ในขณะที่รายได้ของพวกเขา โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโควิด-19 กลับพุ่งสูงมากขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งนี้ รัฐบาลของ โจ ไบเดน พยายามออกกฎหมายขึ้นภาษีรายได้กับบุคคลร่ำรวยพิเศษในประเทศ โดยกฎหมายฉบับดังกล่าวยังถูกค้างการพิจารณาอยู่ในรัฐสภาสหรัฐฯ ในขณะที่สมาชิกวุฒิสภาหลายคนของเดโมแครตให้การสนับสนุนการเก็บภาษีรายได้ และเรียกร้องให้มีการเก็บภาษีทรัพย์สิน รวมถึงภาษีหุ้นด้วย
นอกจากนี้แล้ว มัสก์ยังได้ตอบโต้วอร์เรนว่า เขาจะทำการจ่ายเงิน “ภาษีที่มากกว่าที่คนอเมริกันทุกคนจ่ายในปีนี้ให้เป็นประวัติการณ์”
ที่มา:
https://www.bbc.com/news/business-59732935
https://twitter.com/elonmusk/status/1472754632325795843?s=20