ไม่พบผลการค้นหา
'ก้าวไกล' ชำแหละงบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซื้อรถขบวนเสด็จมากเกินจำเป็น กระทบประชาชนเดือดร้อน เสื่อมเสียสถาบันฯ 'เพื่อไทย' จวก ศอ.บต. ขาดประสิทธิผล เพราะผู้นำขาดวิสัยทัศน์

วันที่ 20 ส.ค. 2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 19 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 วงเงิน 3.185 พันล้านบาท ในวาระที่ 2 ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว เมื่อดำเนินการประชุมมาถึงมาตรา 27 ส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง และหน่วยงานภายใต้การควบคุมดูแลของนายกรัฐมนตรี วงเงิน 3.61 หมื่นล้านบาท


สำนักงานตำรวจฯ จัดการขบวนเสด็จ กระทบประชาชน

ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายเพื่อขอตัดลดงบประมาณของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) วงเงิน 3.168 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีหน้าที่ถวายความปลอดภัย อำนวยความยุติธรรมให้ประชาชน อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตว่าในระยะเวลา 10 ปี จำนวนรถที่ใช้ในขบวนเสด็จเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสำหรับปี 2563 นั้น จำนวนรถเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัว จาก 145 คัน เป็น 336 คัน และในปี 2564 ได้เพิ่มขึ้นเป็น 350 คัน 

นอกจากนี้ ยังสอดไส้ด้วยการนำงบส่วนนี้ไปปะปนในโครงการดูแลประชาชน ทั้งที่ปีก่อนหน้าก็ยังรวมอยู่ในโครงการถวายความปลอดภัย ซึ่งจำนวนของรถที่มากขึ้นอาจไม่จำเป็นต่อการถวายความปลอดภัย เพราะในปี 2563 นี้เอง ได้เกิดเหตุการณ์รถยนต์พระที่นั่งขับผ่านกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2563 โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า จนเกิดเหตุปะทะกับมวลชน กระทั่งทุกวันนี้ยังไม่มีคำตอบว่าเหตุใดเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตัดสินใจเช่นนั้น 

ณธีภัสร์ ยังระบุว่า การจัดการขบวนเสด็จของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังได้สร้างความเดือดร้อนต่อประชาชน ด้วยการปิดถนน และใช้รถนำขบวนมากเกินควร หลายครั้งที่ทำให้นักเรียนไปสอบไม่ทันจนต้องดรอปเรียน รวมไปถึงรถพยาบาลที่นำส่งผู้ป่วยไม่ได้จนเกิดเสียชีวิตไป เมื่อมีผู้วิจารณ์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ยังใช้มาตรา 112 ดำเนินคดีกับประชาชน จนสร้างความเสื่อมเสียให้สถาบันกษัตริย์เสียเอง

“การที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใช้รถจำนวนมาก และใช้งบประมาณในการเช่ารถสูงถึง 324 ล้านบาท ค่าน้ำมันอีก 133 ล้านบาท ทำให้ประชาชนเข้าใจว่าสถาบันกษัตริย์ฟุ่มเฟือย ใช้ภาษีประชาชนอย่างเปล่าประโยชน์ และสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ไม่สอดคล้องกับพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ซึ่งทรงมีพระราชดำรัสมาตั้งแต่ปี 2544 ว่า ไม่ทรงประสงค์ให้ประชาชนเดือดร้อนจากการเสด็จพระราชดำเนิน แต่ผู้ปฏิบัติงานต่างหากที่ไม่กล้าทำตาม” ณธีภัสร์ กล่าว


ประธานฯ ขอเบลอภาพขบวนเสด็จ

ทั้งนี้ ในช่วงก่อนการอภิปราย ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานการประชุมในขณะนั้น ขอให้เบลอภาพในสื่อนำเสนอของ ณธีภัสร์ คือภาพเหตุการณ์ขบวนเสด็จขับฝ่ากลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 14 ต.ค. ซึ่ง ส.ส.พรรคก้าวไกลหลายคนได้ทัดทาน โดยให้เหตุผลว่าเป็นภาพที่นำเสนอโดยทั่วไป หากจำกัดสิทธิเช่นนี้เท่ากับในรัฐสภามีเสรีภาพน้อยกว่านอกรัฐสภา

LINE_ALBUM_220820_22.jpg

ชวน ชี้แจงว่า การวินิจฉัยเบลอภาพเป็นหน้าที่ของรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเห็นว่าเป็นเรื่องที่สร้างผลกระทบ หรือเกี่ยวเนื่องกับสถาบันฯ ซึ่งตนก็ให้ความเคารพการวินิจฉัยของท่าน และครั้งนี้ก็ให้โอกาสอภิปรายอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะพรรคก้าวไกลที่ได้สิทธิอภิปรายมากเป็นพิเศษ ประธานฯ ไม่สามารถยับยั้งได้ แต่จะขอเตือนในสิ่งที่สมควร ด้วยความปรารถนาดี ถ้าประเด็นใดที่กระทบต่อสถาบันฯ ก็จะได้ท้วง ถือว่าได้อภิปรายด้วยความรับผิดชอบของผู้อภิปรายเอง

ขณะที่ รังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายตัดงบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยได้ปรับปรุงตัวเองหลังมีการวิพากษ์วิจารณ์จากสังคม เช่น เรื่องตั๋วต่างๆ เรื่องข่มขู่ตำรวจน้ำดีจนต้องลี้ภัย และเรื่องการใช้ความรุนแรงต่อประชาชน ดำเนินคดีผู้เห็นต่าง ถือว่าเป็นงบประมาณจำนวนมากที่ไม่นำพาต่อการเปลี่ยนแปลงองค์กรไปในทางที่ดีขึ้น ยืนยันว่าสามารถปรับลดงบประมาณได้อีกหลายโครงการ เพื่อนำเงินไปสร้างประโยชน์อื่นๆ ให้กับประชาชนได้


'เพื่อไทย’ อัดวิสัยทัศน์นายกฯ แย่ ไฟใต้โหมหนัก

วิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปรายขอตัดงบ 10% ของ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ที่ไม่ว่าทุ่มงบไปเท่าใด ก็ไม่อาจแก้ปัญหาได้ เนื่องจากวิสัยทัศน์ที่ผิดทางของนายกรัฐมนตรี โดยส่วนตนมองว่าการเยือนซาอุดิอาระเบียของนายกฯ เมื่อ 25-26 ม.ค. 2565 ที่ระบุว่าไปเพื่อเจรจาการค้า และการศาสนา แต่อาจมีวาระอื่นแฝงอยู่ลึกๆ คือการนำ ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) ไปกู้เงินเพื่อซื้อแหล่งแก๊สยาดานา ประเทศเมียนมา

เหตุที่ตามมาคือ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของหลายประเทศในภูมิภาคใกล้เคียง เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย แสดงความไม่เห็นด้วยกับการนำเรื่องศาสนามาบังหน้าการค้า เพราะรู้กันดีว่าความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความละเอียดอ่อน แต่นายกรัฐมนตรีกลับแก้ปัญหาอย่างผิดฝาผิดตัว และไม่อาจทำให้สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่นั้นได้เลย ทั้งที่สามารถแก้ไขด้วยการเจรจาสันติวิธี กลับนำความรุนแรงเข้าไปตอบโต้ ทำให้เสื่อมเสียเกียรติภูมิของไทยในสายต่าต่างประเทศ

“ข่าวที่มีการเผาร้านสะดวกซื้อ 11 แห่ง ที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เขาทำในเชิงสัญลักษณ์ ทุกคนรู้กันดีว่า CP คิอคนที่รวยที่สุดในประเทศไทย แต่ในขณะเดียวกัน CP ก็ไปตั้งบริการเพื่อการค้าขาย แต่คนในท้องถิ่นเขายากจนอยู่แล้ว เอางบไปลงเท่าไหร่ อาชีพความเป็นอยู่เขาก็ไม่ดีขึ้น” วิสาร กล่าว

ในที่สุด ที่ประชุมมีมติเห็นชอบกับกรรมาธิการเสียงข้างมาก อนุมัติงบส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง และหน่วยงานภายใต้การควบคุมดูแลของนายกรัฐมนตรี วงเงิน 3.61 หมื่นล้านบาท โดยไม่ปรับลด ด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย 218 ไม่เห็นด้วย 61 งดออกเสียง 1