วันที่ 15 มิ.ย. 2565 ที่อาคารรัฐสภา ส.ส.เพื่อไทย นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ สัดส่วนผู้มีความหลากหลายทางเพศ รวมทั้ง ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ในฐานะผู้ร่วมร่าง และผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียม หลังสภาฯ มีมติเสียงส่วนใหญ่รับหลักการของร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ... ซึ่งเสนอโดย ธัญวัจน์ แล้ว
การลงมติในครั้งนี้ไม่ใช่แค่การตีความกฎหมายตามตัวอักษร แต่เป็นการส่งสัญญาณต่อประชาชนและโลก ว่าประเทศไทยให้คุณค่ากับสิ่งใด ชัยชนะครั้งนี้ไม่ใช่ของใครคนหนึ่ง ไม่ใช่ของพรรคก้าวไกล รัฐบาลหรือฝ่ายค้าน แต่เป็นชัยชนะของประชาชน ความหลากหลายคือจุดแข็งของเรา จึงขอแสดงความคารวะ และขอบคุณประชาชนทุกคน
ธัญวัจน์ กล่าวขอบคุณแทนประชาชนกลุ่มเพศหลากหลาย ให้กับทุกเสียงที่โหวตให้สมรสเท่าเทียมผ่านวาระแรก เสียงของท่านจะได้รับคำชื่นชม ณ วันนี้ตนได้หวนคำนึงถึงครั้งแรกที่เสนอกฎหมายนี้เข้าสู่ และทำให้ #สมรสเท่าเทียม ทะยานขึ้นสู่เทรนด์อันดับหนึ่ง
"เมื่อวันนี้สภารับหลักการ ทุกใบหน้าทุกรอยยิ้ม ทุกเสียงหัวเราะ ทุกน้ำตา ทุกการต่อสู้ผ่านมาในหัว นี่คือความสำเร็จของพวกเขาไม่ใช่ของก้าวไกล น้ำตานี้คือน้ำตาของผู้แทนราษฎรที่ทำเพื่อประชาชน ธัญหวังให้ผู้แทนซื่อตรงต่อประชาชนและยึดมั่นต่อกลไกสภา ถึงเวลาที่ประเทศต้องเปลี่ยนแปลง" ธัญวัจน์ กล่าว
ธัญญ์วาริน ระบุว่า แม้ไม่ได้เป็น ส.ส. แล้ว แต่สิ่งนี้คืออุดมการณ์แรกเริ่มเมื่อตนเข้าร่วมพรรคอนาคตใหม่ คือสมรสเท่าเทียม เพื่อสร้างคนให้เท่ากัน จึงถือฝันที่ไม่กล้าฝันตั้งแต่แรก ขอขอบคุณประชาชนที่ไม่นิ่งเงียบ และส่งเสียงออกมาให้สภารับรู้
"เสียงของพวกคุณทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงพวกเราเป็นเพียงเครื่องมือ ไม่มีใครควรแย่งสิ่งที่เราควรมีตั้งแต่เกิด สิ่งนี้ไม่ควรมีใครแย่งไป เพราะเมื่อคนเท่ากันสิทธิพื้นฐานทุกอย่างก็ควรเท่ากันด้วย"
ณธีภัสร์ ขอบคุณเพื่อนร่วมงานที่ผลักดัน และมีอุดมการณ์เดียวกัน ขอบคุณประชาชนที่ส่งกำลังใจ จุดประกายฝัน เพราะเมื่อประชาชนยังสู้ เรายิ่งต้องสู้ พรรคก้าวไกลมุ่งจะผลักดันกฏหมายและนโยบายอื่นๆ ต่อไป
ที่อาคารรัฐสภา ตัวแทน ส.ส.เพื่อไทย นำโดย จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ และ ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส. กทม. โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้ร่วมกันแถลงข่าว หลังสภาฯ มีมติเสียงส่วนใหญ่รับหลักการของร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ... ซึ่งเสนอโดย ธัญวัจน์ กลมวงศ์วัฒน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แล้ว
โดย จุลพันธ์ กล่าวยินดีกับชัยชนะอีกครั้งของเพื่อนสมาชิก หลังจากสภาฯ มีมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ตามด้วยร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ในวันนี้ สะท้อนชัดเจนถึงความขาดเสถียรภาพของรัฐบาล และยังเห็นการใช้กลวิธีที่ไม่ชอบธรรม พยายามโยง พ.ร.บ.ที่ไม่เกี่ยวข้องมาประกบ ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านได้ต่อสู้ในช่วงเช้า แต่ท้ายที่สุดก็สามารถรวมพลัง แสดงจุดยืนของสภาได้
สำหรับเพื่อไทยมีมติมานานแล้วว่าเห็นชอบ ขณะที่ร่าง พ.ร.บ.ของ ครม. ทั้ง 2 ฉบับนั้น ไม่เห็นชอบ เพราะไม่สามารถทดแทนความต้องการของประชาชนกลุ่ม LGBTQ+ อย่างแท้จริงได้ เป็นเพียงหนทางของรัฐบาลที่ไม่ต้องการให้ร่างกฏหมายของฝ่ายค้านผ่าน แต่สุดท้ายก็ฟันฝ่าผ่านการพิจารณามาได้
และในช่วงขั้นตอนการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการ ที่มีการถกเถียงว่าจะแยกเป็น 1 หรือ 2 ฉบับ สุดท้ายก็เป็นไปตามที่ฝ่ายค้านเสนอ ถึงแม้การลงมติเลือกฉบับหลักในการพิจารณาจะไม่เป็นไปตามที่ฝ่ายค้านต้องการ คือไม่ใช่ร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีความก้าวหน้ากว่าร่างฉบับของ ครม. อย่างไรก็ตาม กฏหมายที่ผ่านวาระ 1 เมื่อเข้าสู่ชั้นกรรมาธิการ ก็จำเป็นจะต้องนำหลักของ ธัญวัจน์ เข้าไปประกบกับร่าง ครม.
ด้าน ธีรรัตน์ กล่าวว่า ครั้งนี้ไม่ใช่ชัยชนะของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นชัยชนะของประชาชนทุกคน เป็นก้าวแรกและก้าวสำคัญ หวังว่าในวาระต่อไป การทำงานระหว่างทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลนั้นจะดี แม้ในช่วงเช้าจะมีการทำผิดข้อบังคับ ซึ่งสภาต้องแก้ไข ไม่ให้เกิดปัญหาตามมา
ทางพรรคเพื่อไทยยืนยันว่า เห็นชอบกับร่าง พ.ร.บ. ของ ธัณวัจน์ และไม่เห็นด้วยกับฉบับอื่นๆ ที่ยังมีปัญหา จึงไม่รับหลักการ เพราะถ้าไม่ได้เริ่มจากพื้นฐานของความคิดที่คนเท่าเทียมกันแล้ว ก้าวต่อไปก็คงไม่สำเร็จ ไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของประชาชน