ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรี เผยเหตุสู้รบชายแดนเป็นเรื่องภายใน 'เมียนมา' ยืนยันพร้อมรับผู้อพยพ ดูแลตามหลักมนุษยธรรม แต่จะไม่มีการตั้งศูนย์พักพิงรองรับ พร้อมส่งผู้แทนพิเศษเข้าพูดคุยดูแล เจรจาหยุดยิง หากระเบิดตกฝั่งไทย แต่จะไม่มีการอพยพออกคนออกจากพื้นที่

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความตึงเครียดบริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ว่า วันนี้ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ในพื้นที่มีความรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งหลักๆเป็นการสู้รบกันระหว่างทหารเมียนมากับชนกลุ่มน้อย และได้มีการหารือกันทางการทหารในเรื่องนี้มาโดยตลอด ว่าจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดการสู้รบกัน แต่ก็เป็นเรื่องภายในของเขา แต่ด้วยชายแดนไทยติดกับเมียนมา ไม่ว่าจะเป็นบริเวณ อำเภอแม่สอด หรือจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งจุดสำคัญยังมีการสู้รบกันอยู่ แต่ในระหว่างที่เกิดสถานการณ์ ก็มีผู้ที่ได้รับผลกระทบอยู่ และอพยพเข้าหาพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งเราได้มีการเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้านานแล้ว และดูแลตามหลักมนุษยธรรม ทั้งเรื่องยา การเจ็บไข้ อาหารการกิน และเมื่อการสู้รบเบาบางลงก็จะผลักดันบุคคลเหล่านั้นกลับสู่ประเทศ 

นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่า จะไม่มีการตั้งศูนย์อพยพในประเทศไทยในขณะนี้จำนวนผู้อพยพอยู่ในประเทศไทยเหลืออยู่ประมาณ 90,000 คน การส่งกลับก็ต้องขึ้นอยู่กับประเทศต้นทางด้วย โดยที่ผ่านมาเราได้มีการทยอยส่งกลับไปบ้างแล้ว แต่ตอนนี้ยังมีปัญหาเกิดขึ้น เราจึงต้องตระหนักในเรื่องนี้ไว้ก่อน แต่ตนขอยืนยันว่าจะดูแลให้ดีที่สุด และส่งเสริมหลักมนุษยธรรมอาเซียน เพื่อให้ผู้แทนพิเศษสามารถเข้าไปช่วยเหลือดูแลได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องความปลอดภัย ของประชาชนเมียนมา ประเทศเขาก็คือประเทศเขา ประเทศเราคือประเทศเรา แต่ต้องไม่ลืมว่าเรามีความใกล้ชิดกับเมียนมามาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะประชาชนเมียนมาที่เดือดร้อนจากสถานการณ์ภายในของเขา 

ขณะที่มีการใช้ระเบิด และส่งผลกระทบต่อประชาชนไทยตามแนวชายแดนจนเกิดความผวา นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ก็ได้ยินเสียงสิ เพราะเป็นระเบิด แต่หากตกลงมาในฝั่งไทยแล้วทำให้เกิดความไม่ปลอดภัย ก็ต้องแจ้งเตือนให้เขาหยุด แต่จะไม่มีการอพยพประชาชนไทยออกจากแนวชายแดน