นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย และหนึ่งในผู้ถูกเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรีของพรรค ลงพื้นที่หาเสียงช่วย นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ , นายวิชาญ มีนชัยนันท์, และนายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทย โดยเริ่มต้นพบปะประชาชนที่ศูนย์การค้าแฟชั่นไอซ์แลนด์ แจกเอกสารแนะนำตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง รวมถึงเอกสารนโยบาย ก่อนขึ้นขบวนรถแห่เคลื่อนที่ไปตามเขตมีนบุรี คันนายาว บึงกุ่ม
นายชัชชาติ กล่าวว่า ปัญหาหลักที่พบคือปัญหาปากท้อง ผลผลิตทางการเกษตรที่ตกต่ำ และพบว่าประชาชนยังมั่นใจในผลงานที่พรรคเพื่อไทยเคยทำมา และการเลือกตั้งครั้งนี้ นโยบายของพรรคก็ยังเน้นที่จะแก้ปัญหาต่างๆ โจทย์สำคัญคือทำอย่างไรให้เศรษฐกิจโตขึ้น เพื่อที่จะให้ทุกคนมีส่วนแบ่งมากขึ้น โดยเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ เปลี่ยนคนตัวเล็กตัวน้อยให้มีพลัง รู้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก เข้าใจเทคโนโลยี เข้าใจตลาด ช่วยเกษตรให้เพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิต ด้วยการให้เกษตรกรปลูกพืชผสมผสาน เพื่อเพิ่มรายได้ และใช้เทคโนโลยีเข้าไปช่วย
ส่วนการจัดเวทีปราศรัยของพรรคเพื่อไทยวานนี้ ตนเองได้พยายามสื่อสารว่าโลกเปลี่ยนไป คนที่จะมาเป็นรัฐบาลใหม่ต้องเป็นคนที่เข้าใจอนาคต เข้าใจประชาชน เข้าใจวิธีแก้ปัญหา คือสิ่งสำคัญ ซึ่งพรรคเพื่อไทยสามารถทำได้ เพราะพรรคมีความเข้าใจประชาชน
ขณะเดียวกัน อดีตรมว.คมนาคม ระบุว่า ไม่กังวลกับพรรคการเมืองบางพรรคที่มีอำนาจ เพราะเชื่อว่า ประชาชนเห็นว่าเศรษฐกิจที่ไม่ดีในปัจจุบันเพราะอะไร ส่วนตัวคิดว่าการเลือกของประชาชนตัดสินจากผลงานของทุกรัฐบาล และไม่เชื่อว่าการมีอำนาจ จะทำให้ชนะการเลือกตั้ง เพราะอำนาจ ไม่สามารถพิสูจน์ได้ การเลือกตั้งอยู่ที่ใครเข้าใจปัญหา เข้าใจอนาคตมากกว่า ไม่เช่นนั้นถ้าอำนาจสำคัญการเลือกตั้งที่ผ่านมา ทหารก็ต้องชนะทุกครั้ง
ส่วนตัวไม่หวั่นไหว เพราะประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าเป็นธรรมหรือไม่ หน้าที่พรรคเพื่อไทยตอนนี้คือการเสนอทางออกให้กับประชาชนให้ดีที่สุด พร้อมกันนี้ ส่วนตัวไม่มองพรรคการเมืองไหนเป็นศัตรู แต่มองว่าเป็นคู่แข่ง และต้องแข่งอย่างเป็นธรรม เพื่อเป็นตัวเลือกให้ประชาชนได้มีทางเลือกให้การตัดสินใจ
นายชัชชาติ ยังระบุว่า พรรคเพื่อไทย และพรรคไทยรักษาชาติ เป็นอิสระต่อกัน และยังมีการแข่งขันกันในบางพื้นที่ด้วย ไม่ว่าไทยรักษาชาติจะเกิดอะไรขึ้น พรรคเพื่อไทยก็ต้องเดินหน้า ไม่มีความหวั่นไหว