วันที่ 31 ก.ค. วันชัย สอนศิริ สว. ซึ่งเป็นหนึ่งใน 13 สว.ที่เคยยกมือเห็นชอบให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีในการโหวตครั้งก่อนหน้านี้ ระบุถึงทิศทางการโหวตนายกฯ ครั้งต่อไปในวันที่ 4 ส.ค.นี้ โดยระบุว่า ตนยังคงยึดในหลักการเดิมคือ หากใครรวมเสียงข้างมากได้ ตนก็จะยกมือให้ ไม่ได้มีปัญหาอะไร รอบนี้หากพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ตนก็จะยกมือให้
แต่ส่วนตัวเชื่อว่า ยิ่งหากไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมอยู่ในรัฐบาลด้วย ก็ยิ่งจะประสบผลสำเร็จ เพราะจะได้เสียงสนับสนุนจาก สว.เป็นจำนวนมาก
เมื่อถามว่าหากยังคงมีก้าวไกลอยู่ใน 8 พรรคร่วมเหมือนเดิม แต่ลดเงื่อนไขการแก้ไขมาตรา 112 ลงเสียงสนับสนุนจาก สว. จะเป็นเช่นไร วันชัย ตอบว่า เชื่อผลของการโหวตจะเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่ถึงขั้นจะโหวตได้สำเร็จตามเป้าหมายได้หรือไม่ ตนไม่กล้ายืนยัน เพราะแค่การเปลี่ยนแปลงแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลก็ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว
วันชัย ระบุด้วยว่า เท่าที่ตนดู ศักยภาพของพรรคเพื่อไทย น่าจะมีมากกว่าก้าวไกล ไม่ว่าจะเป็นการประสานงาน การติดต่อ พรรคการเมืองและ สว. เชื่อว่าเขาทำได้ดีกว่า และจะมีพรรคพวกที่จะให้ความร่วมมือได้ดีกว่า
เมื่อถามว่าส่วนตัวคิดว่าในการโหวตนายกฯ 4 ส.ค.นี้จะได้เสียงสนับสนุน เศรษฐา จาก สว. มากกว่า 13 เสียงที่เคยโหวตให้ พิธา หรือไม่ วันชัย ตอบว่า ตนเชื่อว่าได้มากกว่าแน่นอน และหากเงื่อนไขต่างๆ ลดลงไปด้วยก็ยิ่งจะมากขึ้น เพราะเท่าที่พูดคุยกับพรรคพวกและดูจากผลการโหวตครั้งที่ผ่านมา ถึงบอกว่าถ้าไม่มีก้าวไกล สว.ก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่ส่วนตัวขอยืนยันยกมือให้อยู่แล้วหากใครรวมเสียงข้างมากได้