ไม่พบผลการค้นหา
‘วันชัย’ พร้อมหนุนสุดตัว ‘เศรษฐา’ นายกฯ ฟันธงรัฐบาล 314 เสียง คือความลงตัว มีทั้งเหลือง-แดง-ทหาร ปรองดองสมานฉันท์เป็นรูปธรรม ดีกว่าแผนปฏิรูปใดๆ เชื่อสร้างความรักสามัคคีให้คนในชาติ ส่วน ‘ก้าวไกล’ เป็นฝ่ายค้านเข้มแข้ง ตรวจสอบรัฐบาลได้ดี

วันที่ 22 ส.ค. ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 4 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) วาระพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ในช่วงอภิปรายเพื่อแสดงความเห็นต่อคุณสมบัติของ เศรษฐา ทวีสิน ผู้ได้รับการเสนอชื่อผู้สมควรได้รับการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดย วันชัย สอนศิริ สว. ได้ร่วมกล่าวอภิปราย

วันชัย ยืนยันจุดยืนที่ประกาศไว้ตั้งแต่ก่อนจนหลังเลือกตั้งว่าจะสนับสนุนพรรคการเมืองที่รวมเสียงข้างมากได้ เพื่อให้เป็นไปตามหลักประชาธิปไตย เพราะเสียงข้างมากถือว่าเป็นไปตามความต้องการของประชาชนทั่วทั้งประเทศ และยังเป็นการลดความขัดแย้งของสังคม

“การตัดสินจะให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี อยู่ที่เสียงชี้ขาดสมาชิกรัฐสภา 750 คน ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่งกล่าวอ้างว่า คนนั้นไม่ดี ไม่มีคุณสมบัติ แล้วคนทั้ง 750 คน ต้องเชื่อคนนั้นที่ไม่ใช่สมาชิกรัฐสภาหรือ นี่คือหลักการที่ผมถือเป็นแนวปฏิบัติ” วันชัยกล่าว

วันชัย มองว่า รัฐบาล 314 เสียง จาก 11 พรรคการเมือง เป็นรัฐบาลที่ก้าวข้ามความขัดแย้ง และสามารถนำมาซึ่งความปรองดองสมานฉันท์ได้จริงๆ ความขัดแย้งเป็นปัญหาเรื้อรังของประเทศมานาน ทำให้เกิดความสูญเสีย สังคมเข้าประหัตประหาร จนถึงขั้นปฏิวัติรัฐประหารกัน

“พอเห็นรัฐบาล 314 เสียง จาก 11 พรรคการเมือง เป็นเรื่องที่บรรจงลงตัวเหมาะเจาะพอดี สลายสี สลายบุคคล เรามีทั้งเหลืองแดงอยู่ในนั้น มีทั้ง กปปส. และ นปช. มีทั้งพรรคการเมืองที่เป็นผู้นำ เป็นทหารก็ดี ร่วมกันเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ เป็นการสมานฉันท์ปรองดองอย่างเป็นรูปธรรม”

วันชัย ระบุว่า ถ้าทุกพรรคการเมืองได้เป็นรัฐบาลจริงๆ จะได้ผลยิ่งกว่าแผนปฏิรูปใดๆ ที่เราเคยเสียเงินเสียทองกันมาทั้งสิ้น หากรัฐบาลนี้ลดความขัดแย้งแบ่งแยก เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง การโหวตนายกฯ วันนี้จะเป็นการนับหนึ่งของการปรองดอง และจะดีหรือไม่ดี ผลงานจะเป็นเครื่องพิสูจน์รัฐบาล

ขณะที่พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน วันชัย กล่าวว่า จะเป็นฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง ขณะที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่มีข้อกล่าวหา แต่ในเมื่อยังไม่มีองค์กรหน่วยงานใดตรวจสอบตัดสิน ก็ถือว่าบุคคลนั้นยังบริสุทธิ์ และเมื่อเป็นรัฐบาลแล้ว ก็จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อตรวจสอบต่อไป ตนเอง วันชัย สอนศิริ จึงขอสนับสนุน เพื่อให้บ้านเมืองเดินต่อไปได้

“พูดถึงคำว่าความรัก ความสามัคคี ที่จะเกิดขึ้น ก็ชื่นใจแล้วนะครับ หวังว่าจะเกิดขึ้นได้ในรัฐบาลนี้” วันชัย ทิ้งท้าย