ไม่พบผลการค้นหา
ส.ส.พรรคเพื่อไทย 'ผิดหวัง' ประธานสภาฯ ให้เลขาฯ แจงแทนถึงเหตุผลที่ไม่บรรจุญัตติการตรวจสอบที่มา ส.ว. ระบุ "คาใจคนส่วนใหญ่ของประเทศ" - ย้ำ หวังศาล รธน.วินิจฉัยคุณสมบัติ 'ประยุทธ์' ก่อนนำ ครม.เข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณ

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฏร ชี้แจงถึงเหตุผลที่ไม่บรรจุญัตติการตรวจสอบที่มา ส.ว.แทนนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ โดยระบุว่า "ผมอยากเรียนท่านชวน และนายสมบูรณ์ว่า ความเคลือบแคลงต่อกระบวนการสรรหา ส.ว.นั้น ไม่ใช่มีเฉพาะผมและพรรคฝ่ายค้านเท่านั้น แต่เรื่องนี้คาใจคนส่วนใหญ่ของประเทศ"

"ดังจะเห็นได้จากซูเปอร์โพลแถลงสัปดาห์ที่แล้วว่าคน 82 เปอร์เซ็นต์กว่า อยากให้ตรวจสอบ และ 17 เปอร์เซ็นต์กว่าไม่อยากให้ตรวจสอบ การทำเรื่องนี้ของผมและฝ่ายค้านจึงทำตามความต้องการของสังคม เป็นการทำหน้าที่ ส.ส. และทำตามกรอบกฏหมาย ข้อบังคับทุกประการ ผมจึงอยากให้ทั้ง 2 ท่านตระหนักว่านี่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของใคร แต่เป็นเรื่องของสภาฯ กับประชาชน เป็นเรื่องที่สภาฯ ต้องมีคำตอบและคำอธิบายที่ชัดเจนแก่ประชาชน

แต่ที่ผ่านมาไม่มีเลย มีเพียงเจ้าหน้าที่สภาฯ ส่งหนังสือถึงผมเมื่อล่วงเลยกรอบเวลาไปแล้วด้วย โดยตอบสั้นๆ ว่าไม่มีอำนาจตามมาตรา 129 ส่วนท่านชวนตอบแบบไม่รับผิดชอบว่าเพราะญัตติฝ่ายค้านเขียนสับสน ซึ่งไปคนละทางกันและทำให้ฝ่ายค้านเสียหาย เมื่อเป็นเช่นนั้น ผมจึงชี้แจงและขอให้ท่านชวน อธิบายให้ชัดเจน ไม่ใช่เรื่องเอาแต่ใจหรืองอแงไม่ยอมรับ แต่เป็นการทำหน้าที่ให้ประชาชนจนถึงที่สุด

แล้วผมก็ผิดหวังเมื่อท่านชวน ให้นายสมบูรณ์ ซึ่งเป็นเลขาฯออกมาชี้แจงแทน โดยนอกจากไปคนละทางกับท่านชวนแล้ว ยังไม่ชัดเจนอีกแถมตอบคำถามผมไม่ครบ คือการไม่ยอมชี้แจงว่า การวินิจฉัยล่าช้าเลยกรอบเวลาซึ่งผิดข้อบังคับนั้นมีข้อยกเว้นอะไร แต่นายสมบูรณ์กลับใช้ลีลามวยวัดออกนอกเรื่อง แขวะคนอื่นไปเรื่อยซึ่งผมดูออกว่าเป็นการกลบเกลื่อนความผิดที่มิสามารถชี้แจงได้ พฤติกรรมเช่นนี้น่าห่วงว่าต่อไปข้างหน้าการทำงานสภาฯ ซึ่งปกติจะมีเรื่องเห็นต่างกันในข้อบังคับเนืองๆ 

แล้วประธานสภาฯ เลขาฯ ทำตัวไม่เป็นกลาง เป็นคู่ขัดแย้งและใช้ลีลามวยวัดกับสมาชิกอย่างนี้แล้วจะกระทบต่อการทำงานของสภาแน่นอน ผมจึงขอให้ท่านได้พิจารณา อยู่ในสถานะนั้นควรนิ่งกว่านี้อีกและอธิบายแบบผู้ใหญ่ โดยไม่ต้องชี้แจงกับผมก็ได้แต่อธิบายกับประชาชน 82 เปอร์เซ็นต์ ให้เขาหายคาใจ และถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงไม่เอาส.ส.สอบตกมาเป็นเลขาเพราะเขาอาจไม่รับผิดชอบต่อสภา"


'ชวลิต' หวัง ศาล รธน.วินิจฉัยคุณสมบัติ 'ประยุทธ์' ก่อนเข้าถวายสัตย์ ฯ

ขณะเดียวกัน นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ให้ความเห็นกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องของ ส.ส.จำนวน 110 คนที่ร้องขอตรวจสอบคุณสมบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่ามีลักษณะต้องห้ามที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ โดยเห็นว่ากรณีนี้ ทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง ตลอดจนพยานหลักฐานไม่มีอะไรซับซ้อน

นอกจากนี้ ศาลฏีกาได้มีคำพิพากษา ทึ่ 3578/2560 ระหว่าง พนักงานอัยการ โจทก์ และนายสมบัติ บุญงามอนงค์ จำเลย ข้อหาขัดคำสั่ง คสช.ไม่ไปรายงานตัวตามประกาศ คสช. โดยในคำพิพากษาศาลได้ชี้สถานะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ว่าเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ซึ่งก็หมายถึงเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐอย่างชัดเจน เพื่อมิให้การบริหารราชการแผ่นดินเกิดความเสียหาย หากศาล รธน.มีความเห็นเช่นเดียวกับศาลฎีกา ดังนั้น ศาล รธน.ควรเร่งวินิจฉัยคำร้องดังกล่าว ก่อนที่ พล.อ. ประยุทธ์ ฯ จะนำ ครม.เข้าเฝ้า ฯ เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณ ฯ ซึ่งหากศาล รธน.วินิจฉัย

เช่นเดียวกับคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าวข้างต้น โดยมีคำวินิจฉัยภายหลังการเข้าเฝ้า ฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ จะเกิดความเสียหายตามมาอย่างมากมายหลายด้าน โดยเฉพาะความเชื่อมั่นประเทศ จะมีผลกระทบตามมาอย่างรุนแรง จึงเป็นเหตุผลที่ศาลรัฐธรรมนูญควรเร่งวินิจฉัยก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ ฯ จะนำคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้า ฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ดังกล่าวข้างต้น