นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายชวน หลีกภัย ชี้เหตุผลที่ไม่บรรจุญัตติขอตั้งกรรมาธิการสอบสวนที่มาของ ส.ว.ว่าเกิดจากสับสนในสาระของญัตติ เนื่องจากเริ่มต้นว่าขอสอบสวนแต่ลงท้ายว่าให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ
นายสุทิน กล่าวว่า ท่านชวน เข้าใจคลาดเคลื่อนหรือไม่ท่านก็สับสนในตัวท่านเอง ความจริงคือ เจ้าหน้าที่สภาตอบเป็นหนังสือมายังผมแจ้งว่าท่านประธานฯมีบัญชาว่าสภาไม่มีอำนาจดำเนินการได้ตามมาตรา 129 ของรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นคนละเหตุผลกับที่ท่านชวนอ้าง ในความเป็นจริงฝ่ายค้านยื่นญัตติเรื่องเดียวกันไป 3 ญัตติคือของผม ของพรรคอนาคตใหม่และของพรรคพลังปวงชนไทย มีเพียงญัตติของพรรคพลังปวงชนไทยเท่านั้นที่ใช้คำว่า ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนร่างของผมและร่างของพรรคอนาคตใหม่ มิได้ใช้คำดังกล่าวซึ่งถือว่ามีความสมบูรณ์ หากท่านชวนเห็นว่าร่างของพรรคพลังปวงชนไทยใช้คำสับสนก็ไม่ต้องบรรจุญัตตินั้นเสีย ส่วนญัตติของผมและพรรคอนาคตใหม่ ก็สามารถบรรจุได้เพราะสาระต่างกัน
อย่างไรก็ตาม หนังสือที่ตอบมาว่าญัตติผมขัดมาตรา129 จึงไม่บรรจุได้นั้น ผมยังมีความเห็นต่างว่าไม่ขัด สภาสามารถตรวจสอบหน่วยงานใดที่ใช้งบประมาณแผ่นดินได้และคสช.เป็นองค์กรบริหารราชการแผ่นดินทั้งนิตินัยและพฤตินัยซึ่งความเห็นต่างนี้ผมจะต้องเดินหน้าต่อไป���พื่อหาข้อยุติไว้เป็นบรรทัดฐานของสังคม ฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ผมเคลือบแคลงในเจตนาของท่านชวนคือ
1.เหตุผลที่ท่านไม่บรรจุญัตตินี้คืออะไรแน่
2.ปกติที่เคยปฏิบัติถ้าหากการเสนอญัตติมีถ้อยคำที่ไม่ตรงตามข้อบังคับหรือข้อกฏหมายทางสภาก็เลือกที่ใช้วิธีการเชิญไปปรับแก้หากตรงตามเจตนาก็จะบรรจุ ครั้งนี้ไม่มีแต่ตีตกเลย
3.การพิจารณาญัตติใดๆตามข้อบังคับสภาฯ จะต้องแจ้งผลให้เจ้าของญัตติทราบว่าเป็นญัตติด่วนหรือไม่ภายใน 5 วันและบรรจุหรือไม่ภายใน 7 วันแต่กรณีนี้ใช้เวลา 10 วันซึ่งท่านทำผิดข้อบังคับชัดเจน
"นอกจากเคลือบแคลงแล้วผมยังเสียดายที่สภาผู้แทนราษฏรควรจะมีบทบาทในการตรวจสอบและหาคำตอบที่ประชาชนเคลือบแคลงสงสัย หรือไม่ก็มีทางออกที่รักษาไว้ซึ่งศักดิ์ศรีของสภาประชาชน" นายสุทิน กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
