พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เป็นประธานการประชุมร่วมคณะรัฐมนตรี และคสช. จากนั้นเป็นประธานการประชุมครม.ตามปกติ โดยก่อนการประชุมผู้สื่อข่าวได้ถามว่ามีรัฐมนตรีลาออก เพื่อไปเป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. จำนวนมากหรือไม่ โดยพลเอกประยุทธ์ กล่าวเพียงสั้นๆ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า "เดี๋ยวรอฟังแล้วกัน"

สำหรับการประชุมร่วมคณะรัฐมนตรีและ คสช. วันนี้ จะเป็นการสรุปการทำงานร่วมกัน และจะมีการพิจารณาถึงการออกมาตรา 44 เพื่อลบล้างคำสั่งและประกาศ คสช.ที่ไม่จำเป็นตั้งแต่ปี 2557 โดยเฉพาะคำสั่ง คสช.ที่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมาย หรือ ไอยูยู ที่ต้องไปแก้ไขคำสั่งมาตรา 44 ที่จะออกมามาลบล้างใหม่

นอกจากนี้ ยังต้องจับตาท่าทีทางการเมือง เนื่องจากมีรัฐมนตรีชุดปัจจุบันกว่า 10 คน ที่ได้ตรวจสอบคุณสมบัติและเตรียมยื่นลาออกจากตำแหน่งเพื่อเข้าไปเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โดยส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับพล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งสาเหตุที่รัฐมนตรีลาออกไปเป็นส.ว. ก็เพื่อสนับสนันรัฐบาลชุดต่อไป ซึ่งคาดว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะกลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง 

ขณะที่การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้มีวาระที่สำคัญ โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร จะมีการเสนอ 3 มาตรการในการพยุงราคาปาล์มไม่ให้ตกต่อเนื่อง ได้แก่ 1.ให้กระทรวงพลังงานโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ) จำนวน 2 แสนตัน พร้อมสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ออกตรวจสต๊อกน้ำมันปาล์มจากโรงสกัด 144 แห่งเพื่อเช็คปริมาณและควบคุมไม่ให้แต่ละโรงสกัดมีสต๊อกต่ำกว่าร้อยละ 50 จากยอดขายปกติ 2.ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดทำมาตรการลดต้นทุนให้เกษตรกร และ 3.ให้มีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการกำหนดโครงสร้างราคาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม โดยมีอธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธานเพื่อจัดทำโครงสร้างราคาน้ำมันปาล์มที่สะท้อนต้นทุนและราคาที่แท้จริง

ทั้งนี้ มีรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี ได้เชิญรัฐมนตรีทั้ง 18 คนที่ลาออก เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้าด้วย

ขณะเดียวกันนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ตกเป็นกระแสข่าวเป็น 1 ในรัฐมนตรี ที่เตรียมลาออกจากตำแหน่ง เพื่อไปดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. โดยได้ปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าว โดยระบุเพียงว่า ยังไม่ลาออกตอนนี้ เพราะยังมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ โดยเฉพาะการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่ประเทศไทย จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ในช่วงกลางเดือนถึงปลายเดือนมิถุนายนนี้