ไม่พบผลการค้นหา
วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย แถลงผ่านการถ่ายทอดสดต่อประชาชนในประเทศว่า ตนได้ประกาศการระดมพลบางส่วนในประเทศ ในขณะที่สงครามยูเครนเดินหน้าเข้าสู่เดือนที่ 7 แล้ว พร้อมกันกับความพ่ายแพ้ในสมรภูมิที่รัสเซียกำลังประสบมากขึ้นเรื่อยๆ

จากการแถลงผ่านทางโทรทัศน์ของปูตินในวันนี้ (21 ก.ย.) ปูตินกล่าวว่า การระดมพลในครั้งนี้เป็นไปเพื่อการป้องกันดินแดนของรัสเซีย และตะวันตกมีความต้องการในการทำลายล้างประเทศของตน ทั้งนี้ การประกาศในครั้งนี้ของปูติน เกิดขึ้นในช่วงวันหลังจากที่ 4 พื้นที่ในยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดไป ประกาศการทำประชามติเพื่อปูทางไปสู่การผนวกดินแดนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย

ความพยายามในครั้งนี้ของรัสเซีย เป็นอีกหนึ่งสัญญานการดิ้นรนของรัสเซีย เพื่อควบคุมพื้นที่ที่ตนยังสามารถครอบครองมาจากยูเครนได้ ในขณะที่ยูเครนกำลังประสบกับชัยชนะในการยึดคืนหลายพื้นที่ของตนกลับมา โดยเฉพาะชัยชนะครั้งใหญ่ล่าสุด ที่ยูเครนสามารถยึดคืนพื้นที่ภูมิภาคคาร์คีฟคืนมาได้กว่า 6,000 ตารางกิโลเมตร ภายในระยะเวลาของเดือน ก.ย.ที่ผ่านมานี้เท่านั้น

เคยมีการคาดการณ์ว่า การจัดประชามติน่าจะจัดขึ้นในช่วงเดือนแรกของสงครามยูเครน อย่างไรก็ดี การทำประชามติเพิ่งถูกประกาศว่าจะมีการจัดทำขึ้นในพื้นที่โดเนตสก์และลูฮานสก์ของยูเครน ซึ่งมีกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่รัสเซียคอยให้การหนุนหลังควบคุมอยู่ ซึ่งจะเริ่มทำประชามติปูทางไปสู่การผนผวกตนเองเข้ากับรัสเซียตั้งแต่วันที่ 23-27 ก.ย.นี้ เช่นเดียวกันกับพื้นที่เคอร์ซอนและซาปอริซเซีย ที่พยายามจะทำประชามติผนวกเข้าเป็นของรัสเซียด้วย

“เรากำลังพูดถึงการระดมพลบางส่วน กล่าวคือ มันจะทำขึ้นในเฉพาะพลเมืองที่อยู่ในกองหนุนเท่านั้นที่จะถูกเกณฑ์ทหาร และเหนือสิ่งอื่นใด ผู้ที่รับราชการในกองทัพ ย่อมมีความเชี่ยวชาญด้านทหารและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง” ปูตินกล่าวในการแถลง ทั้งนี้ การระดมพลดังกล่าวผ่านลงนามในกฤษฎีกาของปูติน เป็นไปตามการคาดการณ์ของสื่อตะวันตก

รัฐสภารัสเซียได้อนุมัติการลงโทษที่รุนแรงขึ้น สำหรับการก่ออาชญากรรมทางทหาร เช่น การหนีทหาร การสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินทางทหาร และการขัดคำสั่งระหว่างการระดมกำลังหรือการปฏิบัติการต่อสู้ด้วย อันเป็นอีกหนึ่งสัญญาณในความพยายามครั้งล่าสุดของรัสเซีย เพื่อการรุกรานยูเครนของตนที่ล่าถอยลงไปมาก

ดมีโทร คูเลบา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเครน ออกมาระบุว่า “การทำประชามติปลอมๆ จะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรได้” อย่างไรก็ดี การผนวก 4 พื้นที่ของยูเครนเข้ามาเป็นของตนเอง จะปูทางให้รัสเซียออกมาอ้างเพิ่มว่า ดินแดนของตนซึ่งผนวกมาจากยูเครน ถูกโจมตีโดยอาวุธขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) หลังจากที่ตนเองรุกรานยูเครนเมื่อ 24 ก.พ. ด้วยข้ออ้างหนึ่งว่า NATO ขยายอิทธิพลของตนเองเข้ามายังยูเครน

ความพยายามใดๆ ของรัสเซีย ในการผนวกดินแดนของยูเครน ผ่านการทำประชามติที่ตนเองจัดขึ้น จะสร้างความโกรธแค้นให้กับยูเครนมากยิ่งขึ้น และอาจทำลายความหวังใดๆ ในการเจรจากันระหว่างรัสเซียกับยูเครนในอนาคต โดย โอเลกซีย์ โคปิตโก ที่ปรึกษาของกระทรวงกลาโหมยูเครนเปิดเผยว่า การทำประชามติในครั้งนี้เป็น “สัญญาณของโรคประสาทหวาดผวา” ของรัสเซีย ในขณะที่ โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนระบุว่า “ผู้รุกรานกำลังตกอยู่ในอาการตื่นตระหนกอย่างชัดเจน”

ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2557 รัสเซียเคยใช้วิธีการทำประชามติในไครเมีย เพื่อผนวกดินแดนดังกล่าวที่ตนยึดมาจากยูเครนเข้าเป็นของตนเอง แม้จะถูกประชาคมโลกประณามว่าเป็นการทำประชาติที่ไม่ชอบโดยกฎหมาย และไม่ให้การยอมรับว่าไครเมียเป็นของรัสเซีย ทั้งนี้ รัสเซียกำลังจะใช้วิธีการดังกล่าวกับ 4 พื้นในยูเครน ที่ตกอยู่ภายใต้การครอบครองของตน


ที่มา:

https://www.aljazeera.com/news/2022/9/21/russias-putin-signs-decree-on-partial-mobilisation-for-citizens

https://www.bbc.com/news/world-europe-62965998?fbclid=IwAR3F7WSmXyTxb7m0oJFeLm16FiGp8WwkbSnpHZbEYmQoRkyHYoKUE0NDDg4