ไม่พบผลการค้นหา
เลขาฯกกต. เผยเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งซ่อมเขต 5 นครปฐมแล้ว เร่งสรุปทุกสำนวนทุจริตเลือกตั้ง 24 มี.ค.ให้เสร็จในเดือนนี้เพื่อส่งศาล  ยังไม่เห็นคำร้องยุบ 7 พรรคฝ่ายค้านร่วมเสวนาแก้รัฐธรรมนูญหมวด 1

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมจัดเลือกตั้งเขต 5 จังหวัดนครปฐมแทนตำแหน่งที่ว่าง ว่า วานนี้ (7 ต.ค.) สำนักงานกกต.ได้รายงานให้ที่ประชุมกกต.รับทราบว่าได้ตั้งคณะกรรมการดูแลทุกขั้นตอนในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นชุดหาข่าว การจัดการเลือกตั้ง และตั้งคณะกรรมการไต่สวนเตรียมไว้ล่วงหน้า เผื่อกรณีมีข้อร้องเรียน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำร้องทุจริตเลือกตั้งเข้ามา นอกจากนี้ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดได้ขอความร่วมมือไปยังสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ขออนุญาตให้ลูกจ้างได้มาใช้สิทธิในวันเลือกตั้ง 23 ตุลาคมนี้ด้วย ซึ่งเป็นวันปิยมหาราช รวมทั้งได้เร่งรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชชาชนออกมาใช้สิทธิให้ได้ร้อยละ70 เท่ากับการใช้สิทธิเลือกตั้งของเขตนี้เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา 

เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงการพิจารณาสำนวนร้องคัดค้านเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ว่า กกต.กำลังพยายามเร่งรัด แต่เนื่องจากแต่ละสำนวนมีรายละเอียดมาก การพิจาณาต้องรอบคอบ 1 สำนวนจะใช้เวลาพิจารณาประมาณ 5-6 เดือน ซึ่งรวมถึงกรณี กกต.เสนอให้ใบเหลืองหรือเลือกตั้งใหม่ในเขต 5 สมุทรปราการด้วย หลังพบว่าคนใกล้ชิดของนายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.พรรคพลังประชารัฐใส่ซองช่วยงานศพ  

“กกต.จะพยายามเร่งรัดสำนวนคดีที่ค้างอยู่ให้แล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อส่งให้กกต.พิจารณา และถ้ามีใบเหลือง ใบแดงจะทำคำวินิจฉัย ยกร่างคำฟ้อง ซึ่งจะใช้เวลา 30 วันก่อนส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา ส่วนศาลจะใช้เวลาพิจารณาเท่าไหร่ไม่สามารถกำหนดได้ แต่ตามกฎหมายกำหนดให้ศาลใช้สำนวนของกกต.เป็นหลักพิจารณา จึงต้องทำสำนวนให้ละเอียดรอบคอบ” พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าว

ส่วนที่มีการยื่นคำร้องยุบ 7 พรรคฝ่ายค้านกรณีร่วมเสวนาแก้รัฐธรรมนูญโดยมีข้อเสนอให้แก้ไขมาตรา 1 ซึ่งบัญญัติว่าประเทศไทยต้องเป็นรัฐเดียว จะแบ่งแยกไม่ได้ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ต้องดูก่อนว่าคำร้องร้องว่าอย่างไรซึ่งยังไม่เห็น แต่ในฐานะของนายทะเบียนพรรคการเมือง หากเป็นเรื่องของการร้องยุบพรรค ถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องแยกการพิจารณาว่าสิ่งใดเป็นการกระทำของบุคคลหรือการกระทำของพรรค มีการประชุมพรรคก่อนจะดำเนินการดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งเห็นว่าการกระทำของตัวบุคคลไม่ใช่จะเอามาเกี่ยวเป็นการกระทำของพรรคโดยอัตโนมัติ ยังมีรายละเอียดอีกมาก และจากที่ดูข้อบังคับและอุดมการณ์ของพรรคที่ยื่นจัดตั้งพรรคการเมืองต่อกกต. ไม่มีพรรคการเมืองไหนที่มีนโยบายแบ่งแยกประเทศไทย