ไม่พบผลการค้นหา
'ชัยวัฒน์' จวก ถ้า สปก. ทำงานถูกต้อง ผู้ยากไร้ต้องมีที่ทำกิน ไม่ใช่ตกอยู่ในมือผู้มีอิทธิพล เผย 1 มี.ค. นี้ จ่อเชิญ ป.ป.ช.-หน่วยงาน ลงพื้นที่พิสูจน์แนวเขต

วันที่ 28 ก.พ. ที่อาคารรัฐสภา ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวภายหลังชี้แจงคณะกรรมาธิการ ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎรสภาผู้แทนราษฎร กรณีข้อพิพาทที่ดิน สปก. เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา

โดย ชัยวัฒน์ ระบุว่า กรมแผนที่ทหารได้อธิบายที่มาที่ไปของแผนที่ ว่าเดินจากหมุดและอ้างอิงจาก Field Book (สมุดรังวัด) ของอุทยานฯ ซึ่งทางอุทยานฯ ก็พยายามอธิบายว่า Field Book ต้องอิงจากหลักฐานเดิม ปัจจุบันมีพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ที่ชัดเจน และได้หลักฐานเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการ One Map ได้ทำหนังสือเตือน สปก. ไปว่า แนวเขตที่ไปวางแปลงทับเขตอุทยานให้พิจารณา ซึ่งก็มีหนังสือตอบมาชัดเจนจาก สปก. ว่าอยู่ในเขตอุทยาน โดยตอบมาก่อนที่จะเกิดเรื่อง 

"ผมก็ยัง งง ว่าคณะที่ทำทำแบบนี้ได้อย่างไร ด้วยอำนาจหรือมีอะไรที่มากกว่านั้น ดังนั้นวันนี้คณะกรรมาธิการ 2 คณะที่พิจารณาแล้ว ก็ยังมีอีกชุดหนึ่ง ในวันพุธหน้าก็ต้องมาชี้แจงรายละเอียด ทราบว่าจะเชิญ ป.ป.ช. มาด้วย"

ชัยวัฒน์ ยังยืนยันกับประชาชนที่อาจฟังแล้วไม่เข้าใจ ว่าทำไมเราออกมาพูดเรื่อง สปก. ประชาชนที่เดือดร้อน ผู้ยากจน ยากไร้ ไม่มีที่ทำกิน สบายใจได้ว่าท่านจะได้ที่ทำกินจาก สปก. ด้วยความสุจริตใจ และคณะทำงาน สปก. จะมองเห็นผู้ยากไร้จริงๆ ไม่ใช่ให้กับผู้มีอำนาจ หรือข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ วันนี้ต้องเดินหน้าสู้พร้อมกัน เพราะ สปก. ที่ออกมา ผู้ครอบครองจะเป็นผู้มีอิทธิพล มีนักการเมือง นักลงทุนต่างๆ ที่ไม่ใช่เกษตรกรผู้ยากไร้ ที่ไม่มีที่ทำกินจริงๆ โดยวันที่ 1 มี.ค. นี้ เวลา 8.30 น. ตนได้นัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นกรมป่าไม้ ให้เจอกันที่ด่านปากช่อง ไปดูแนวเขตอุทยานว่ามีตรงไหนบ้างที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ลุแก่อำนาจ 

“ฝากกับประชาชนว่า ผู้ยากไร้ ยากจน ไม่มีที่ทำกิน สบายใจได้ ถ้า สปก. ตั้งใจทำงานนี้ด้วยความถูกต้องและแม่นยำ ก็ต้องเอาคนที่เป็นนายทุน กลุ่มนายทุน กลุ่มที่ได้ไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย รื้อกลับมา ถ้า สปก. จริงใจต่อประเทศชาตินี้”

เมื่อถามว่า ที่ดินเขาใหญ่ที่เป็นปัญหา มีเกษตรกรเป็นเจ้าของพื้นที่หรือไม่ ชัยวัฒน์ กล่าวว่า จะบอกว่าไม่มีเกษตรกร คือได้มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย คือเป็นบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อ ซึ่งผู้ใหญ่บ้านก็ยืนยันว่า มีลูกบ้านเสนอชื่อไป แต่ไม่มีชื่อ กรณีแบบนี้มันเกิดขึ้นมาแล้ว รายชื่อที่ได้ไป วันที่ 1 มี.ค. ไปดูกันว่าใครเป็นผู้ครอบครอง เห็นแล้วไม่รู้ว่าเป็นที่เกษตรกร หรือที่ดินทำเลทอง 

ทั้งนี้ ตนพูดในที่ประชุมแล้วว่า วันที่ 1 มี.ค. ได้ทำหนังสือเชิญ ป.ป.ช. เลขาธิการ สปก. และผู้ว่าฯโคราช ป.ป.ป. รวมทั้งฝ่ายปกครองทั้งหมด และคณะอนุกรรมการของกรรมาธิการชุดนี้ ซึ่งการลงพื้นที่จริง จะได้ชี้ชัดกันเลยว่า ตนเชื่อมั่นในแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่อยู่แล้ว ซึ่งเป็นแนวทางมาตลอด และ คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ก็มีมติมาตั้งแต่ 18 ธ.ค. 2565 ซึ่งเห็นชอบแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และมีการดำเนินการต่อเนื่องมาตลอด และ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ก็ทำหนังสือถาม ซึ่งเขาก็ตอบชัดว่าเป็นที่แนวเขตอุทยาน แต่ไม่รู้ว่าเหตุการณ์นี้มาได้ยังไง

เมื่อถามว่า กรมแผนที่ทหาร ได้ชี้แจงอย่างไรในเรื่องนี้ ชัยวัฒน์ กล่าวว่า เขาก็ชี้แจงว่าทำตามเส้น Field Book ที่จัดทำในพื้นที่ ซึ่งตนอธิบายไปว่ามันกว้าง 300 เมตร แต่ตัวแทนกรมแผนที่ทหารก็อ้างอิงว่ามันติดเขาลูกช้าง แต่แผนที่ทำออกมาเฉพาะเส้นเดียว ก็อยากถามว่าการจำแนกพื้นที่มาก่อนหรือหลัง โดยเฉพาะนโยบายของกระทรวงเกษตรฯ ในขณะนั้น ยืนยันชัดเจนว่าอุทยานใด เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าใด ที่ประกาศมาก่อน สปก. ต้องยึดตามแนวอุทยานและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เพราะฉะนั้นอุทยานเขาใหญ่ ประกาศปี 2505 มีแนว พ.ร.ฎ.ชัดเจน ก็ต้องยืนตามแนว พ.ร.ฎ. ขณะที่ สปก. ไม่สามารถจัดที่ดินในพื้นที่อุทยานได้ ซึ่ง สปก. ก็ตอบกลับมาชัดเจนว่าอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่วันนี้ก็ไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น ต้องดูว่าเบื้องหน้าเบื้องหลังของขบวนการที่เกิดขึ้น เป็นบุคคลที่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่