สำนักข่าวสเตรทไทม์ส/เบอร์นามา สื่อมาเลเซีย ระบุว่าตำรวจไทยเริ่มปฏิบัติการกวาดล้างขบวนการค้ามนุษย์ในภาคใต้ตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และมีการแถลงผลจับกุมผู้ต้องหา 23 รายซึ่งเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวเมียนมา เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
รายงานดังกล่าวอ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ผู้รับผิดชอบปฏิบัติการครั้งล่าสุด โดยสื่อมาเลเซียระบุด้วยว่า ขบวนการค้ามนุษย์มีต้นทางการจัดหาแรงงานผิดกฎหมายไปจากประเทศเมียนมา และใช้ไทยเป็นเส้นทางลำเลียง ก่อนจะไปสิ้นสุดที่ประเทศปลายทาง คือ มาเลเซีย
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ระบุด้วยว่า ขบวนการค้ามนุษย์จะเดินทางจากเมียนมาเข้ามายังไทยโดยผ่านจากเกาะสองเพื่อไปที่จังหวัดระนอง ผ่านจังหวัดชุมพร-พัทลุง และไปข้ามแดนบริเวณด่านสะเดาใน จ.สงขลา หรือด่านสุไหงโก-ลก ใน จ. นราธิวาส เพื่อข้ามไปยังมาเลเซีย ซึ่งตำรวจไทยจะเข้มงวดกวดขันบริเวณจุดตรวจข้ามพรมแดนและจะดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้งหมดตามกระบวนการทางกฎหมายให้สิ้นสุดโดยเร็ว
ขณะเดียวกัน องค์กรระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน 'ฮิวแมนไรท์วอทช์' (HRW) ออกแถลงการณ์วันที่ 16 ก.ค. เรียกร้องให้สหภาพยุโรป (EU) คงมาตรการตรวจสอบอย่างเข้มงวดในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการใช้แรงงานบังคับหรือการละเมิดสิทธิแรงงานในอุตสาหกรรมประมงไทย และเสนอให้อียูอย่าเพิ่งปลดใบเหลืองแก่ทางการไทย
เนื้อหาในแถลงการณ์ของ HRW ระบุว่า การผลักดันกฎหมายป้องกันการละเมิดสิทธิแรงงานในไทยถือเป็นเรื่องที่คืบหน้า แต่การปฏิบัติจริงหรือการตรวจสอบผู้ละเมิดกฎหมายในบางพื้นที่อาจยังไม่ครอบคลุมทั่วถึง อียูจึงไม่ควรผ่อนผันเกี่ยวกับมาตรการรวจสอบหรือป้องกันการละเมิดสสิทธิแรงงาน โดยเฉพาะธุรกิจประมง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: