ไม่พบผลการค้นหา
"เผ่าภูมิ" กระตุกรัฐบาล อย่าไปไกลจนถึงขั้นเคอร์ฟิว ปิดทุกอย่างในประเทศ เตือนอาจจะจบ แต่จะ "เจ็บจนเกินเยียวยา" ย้ำสายป่านประเทศไทยไม่ได้สั้นมาก แต่ไม่ได้ยาวพอจะหยุดทุกอย่างในประเทศได้

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง แนวคิดการเคอร์ฟิวประเทศว่า ตนเข้าใจความกังวลในมิติและมุมมองทางด้านสาธารณสุข ซึ่งตนเห็นพ้องและเคารพ แต่อีกมุมมองที่ควรพิจารณาคู่กัน คือ มิติด้านเศรษฐศาสตร์ เรากำลังมีอีกวิกฤติหนึ่งรออยู่ หากเราควบคุมวิกฤติทางโรคระบาดด้วยต้นทุนที่สูงเกินจริง มันเป็นการซื้อเวลาวิกฤติหนึ่ง ด้วยราคาของอีกวิกฤติหนึ่ง ซึ่งมีอันตรายไม่น้อยไปกว่ากันเลย

สิ่งๆ นั้น เรียกว่า 'วิกฤติเศรษฐกิจ' ที่เกิดจากการล้มตายของธุรกิจ การตกงาน และหากลามถึงปัญหาในระบบสถาบันการเงิน จะเป็นเรื่องใหญ่มาก ผมไม่อยากให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น

บางแนวคิดอาจมองว่า "เจ็บแต่จบ" แต่ภาวะ "จบแต่เจ็บจนเกินเยียวยา" ก็อาจจะเกิดขึ้น โดยปัจจุบันที่รัฐบาลทำคือการปิดไม่ให้คนเข้าออกประเทศ แต่ยังไม่ได้หยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหมด (มีปิดห้าง ปิดโรงหนัง ร้านอาหารบ้าง ตามจำเป็น ฯลฯ)

แล้วระดับนี้เป็นขั้นมากสุดที่เศรษฐกิจไทยจะรับไหวแล้ว หากเราเดินไปถึงขั้นหยุดทุกอย่างในประเทศ เรากำลังแก้ปัญหาหนึ่ง ด้วยการสร้างอีกปัญหาหนึ่งขึ้นมา ญี่ปุ่น ไต้หวัน สิงคโปร์ ก็ทำแบบเราที่ทำอยู่ในตอนนี้เท่านั้น ไม่ได้ไปไกลแบบอู่ฮั่นโมเดล

แต่ละประเทศมีกลไก เงินกองทุนของธนาคาร และกันชนทางการเงินของประเทศและธุรกิจที่ต่างกัน ซึ่งเราเรียกมันว่า "สายป่านของประเทศ" อเมริกา จีน ยุโรป มีสายป่านที่ยาว มีธนาคารกลางที่สามารถทำนโยบายการเงินแบบไม่จำกัดได้ และสายป่านของไทย ไม่ได้สั้นมาก แต่ไม่ยาวพอที่จะรองรับการหยุดทุกอย่างในประเทศ แบบที่อู่ฮั่นทำแน่นอน 

การหยุดทุกการเคลื่อนไหวหรือเคอร์ฟิว เป็นการใช้ "บ้าน" เป็น "เครื่องป้องกัน" ไม่ให้มนุษย์สัมผัสกับมนุษย์ สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือเกือบทุกอย่างในประเทศมันต้องหยุดลง เพราะ "บ้าน" มันเคลื่อนที่ไม่ได้ จะดีกว่าไหม ถ้าเราใช้ "เครื่องป้องกัน" ที่สามารถเคลื่อนที่ไปทำงานได้บ้างตามจำเป็น คือการใช้ "กฎหมายควบคุม" ให้ผู้คน 1.ต้องใส่หน้ากาก 2.ต้องใส่แว่น 3.ห้ามทานอาหารร่วมกัน 4. Social Distancing แค่ในช่วง 30-60 วันนี้ ควบคู่ไปกับการหรี่ไฟประเทศแบบที่ทำอยู่ตอนนี้

อย่างไรก็ตาม ตนมองไม่เห็นว่าถ้าเราควบคุมให้ทุกคนทำทั้ง 4 ข้อนี้ เราจะสามารถ "แพร่เชื้อและติดเชื้อ" ได้ในทางไหน และเรายังสามารถไปทำงาน ใช้ชีวิตตามปกติได้ เราทุกคนก็ไม่ต้องตกงาน ธุรกิจก็ไม่ต้องล้ม ไม่ต้องเดิมพันเศรษฐกิจประเทศทั้งประเทศ ฝากเป็นอีกหนึ่งความเห็นให้รัฐบาลพิจารณาว่า เราอย่าไปไกลจนถึงจุดนั้นเลย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :