เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตยร่วมกับศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนและตัวแทนผู้ถูกละเมิดจากคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ 3/2558 กรณีเจ้าหน้าที่ทหารเรียกตัวบุคคลมาสอบปากคำและคุมตัวนานถึง 7 วัน รวมถึงการห้ามชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป
นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย กล่าวว่า ตลอดเวลา 3 ปีครึ่งที่ผ่านมา รัฐได้ใช้คำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 บังคับใช้แก่ผู้เห็นต่าง ส่งผลให้คนถูกจับกุม คุมขัง และดำเนินคดีตามมา ทั้งที่ปัจจุบันมีรัฐธรรมนูญปี 2560 รับรองสิทธิ เสรีภาพ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ความเสมอภาคและสิทธิในร่างกายที่จะไม่ถูกจับกุมคุมขัง แต่สิ่งนี้ยังดำเนินต่อไปและยังไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้เสรีภาพของเราอาจเสียหาย จึงมองว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องหาทางแก้ไขโดยการรวมตัวกันของผู้ที่ได้รับผลกระทบเพื่อฟ้องและยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคสช.3/2558 โดยจะยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญตามช่องทางมาตรา 213 ของรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 ขัดหรือแย้งแต่รัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งทางกลุ่มจะยื่นคำร้องภายในเดือนธ.ค.60 หรือ ม.ค.61 นี้
นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ (จ่านิว) แกนนำกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ กล่าวว่า ตนได้รับผลกระทบจากคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558กรณีที่นั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ถูกควบคุมตัวจากทหารที่จ.กาญจนบุรี ตนมองว่าคำสั่งหรือประกาศของคสช.อาจไม่ใช่กฎหมายเพราะกฎหมายต้องผ่านการพิจารณาจากหลายฝ่ายและกระบวนการนิติบัญญัติ หากเป็นไปได้อยากเรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญยกเลิกการมีคสช. นอกจากยกเลิกคำสั่งที่ 3/2558 ทั้งนี้จะรณรงค์เรียกร้องให้คสช.ใช้อำนาจน้อยลงหรือไม่ใช้อำนาจคสช.เลย อย่างไรก็ตามการยื่นคำร้องครั้งนี้จะทำให้เห็นว่าตกลงคำสั่งคสช.หรือรัฐธรรมนูญสิ่งไหน ใหญ่กว่ากัน
สำหรับคำสั่งคสช. ที่ 3/2558 คือ เรื่อง การป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดบางประการที่เป็นภยันตรายต่อความสงบเรียบร้อยหรือบ่อนทำลายระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยคำสั่งดังกล่าว ให้อำนาจเจ้าพนักงานจับกุมบุคคลผู้กระทำความผิดซึ่งหน้า, ควบคุมตัว, ค้น ยึด อายัด, หรือควบคุมตัวบุคคลไว้ได้ไม่เกิน 7 วัน ตลอดจนกำหนดเงื่อนไขในการปล่อยตัวด้วย