นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงศาลปกครองกลาง มีคำสั่งให้การประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิทัลของบริษัทไทยทีวี เป็นโมฆะทั้งหมด และเพิกถอนหนังสือ กสทช.การชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต รวมทั้งคืนเงินและดอกเบี้ย ซึ่งอาจจะเป็นบรรทัดฐานให้กับทีวีดิจิทัล ในอนาคตที่อาจจะบริหารแล้วไปไม่รอด ว่า ตนไม่ทราบ เพราะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย มีทั้งกำไรและขาดทุนที่จะทำอย่างนั้น แต่จะเป็นบรรทัดฐานให้กับ กสทช.และฝ่ายรัฐ ว่าหากมีผู้ถอนในอนุญาตจะต้องแบ่งงวดกันอย่างไร
นายวิษณุ ระบุว่า กสทช.เตรียมยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน ขณะที่ด้านผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลจะต้องจ่ายเงินธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ ภายในเดือน พ.ค. จะต้องรอศาลปกครองสูงสุดพิจารณา หรือต้องจ่ายเงินไปก่อนว่า หากสมมติว่า ศาลอุทธรณ์ยื่นเรื่องไปยังศาลปกครองสูงสุดก็จะต้องหยุดรอไว้ก่อน เพราะเมื่อศาลยังไม่ตัดสินทุกอย่างก็จะต้องรอ ส่วนการบังคับคดีเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ส่วนที่จะเชิญสมาคมผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลมาหารือในวันที่ 15 มี.ค.จะได้ข้อสรุปในเรื่องการคืนใบอนุญาตหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้หารือเรื่องคืนหรือไม่คืน แต่คุยกันในเรื่องอื่นที่เคยมีการหารือมาก่อนหน้านี้ และเรื่องที่ศาลตัดสินนั้นมาทีหลัง และไม่เกี่ยวกับสิ่งที่จะหารือ พร้อมขอให้มีการหารือกันก่อน ส่วนจะให้การช่วยเหลือ หรือ ขยายดอกเบี้ย ก็ค่อยว่ากันภายหลัง แต่ทางสมาคมผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลเป็นฝ่ายขอความช่วยเหลือมา ซึ่งรัฐจะนำสิ่งเหล่านั้นมาพิจารณา พบว่าบางอย่างสามารถช่วยเหลือได้ แต่เป็นคนละกรณีกัน บางอย่างคงทำไม่ได้ ซึ่งยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เพราะจะต้องให้เกิดประโยชน์กับสาธารณะด้วย ซึ่งเรื่องเหล่านี้ได้หารือกันมา 3-4 ครั้งแล้ว แต่การหารือยังไม่ได้ข้อสิ้นสุดจนกว่าจะมีการทำให้ถูกกฎหมาย