ไม่พบผลการค้นหา
บีทีเอสเตรียมเปลี่ยนบัตรโดยสารเที่ยวเดียวจาก 'บัตรแม่เหล็ก' เป็น 'สมาร์ทการ์ดชนิดบาง' พร้อมเปลี่ยนตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารอัตโนมัติเป็นจอสัมผัส 200 ตู้ ติดตั้งตู้จำหน่ายตั๋วมีช่องรับธนบัตรเพิ่มอีก 50 ตู้ เริ่ม มิ.ย. 2561 ฟาก รฟม. เตรียมแจก 'บัตรแมงมุม' 2 แสนใบ ดีเดย์ 23 มิ.ย. ที่สถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงเท่านั้น

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ จะเปลี่ยนบัตรโดยสารประเภทเที่ยวเดียวจากบัตรแถบแม่เหล็ก เป็น บัตรสมาร์ทการ์ดชนิดบาง (Thin Card) ที่มีความบางมากกว่าบัตรแรบบิทการ์ดหรือบัตรทั่วไป เพื่อเปลี่ยนเป็นบัตรเทคโนโลยีที่ทันสมัยยิ่งขึ้น

พร้อมกับรองรับการใช้งานในส่วนต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงสำโรง-สมุทรปราการ ซึ่งจะเปิดให้บริการประมาณ ปลายปี 2561 นี้ และเตรียมไว้สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต - คูคต และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง 

โดยการเปลี่ยนระบบบัตรโดยสารเที่ยวเดียวนี้ บริษัทฯ จะเปลี่ยนตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารอัตโนมัติทั้งหมดให้เป็นแบบจอสัมผัส (Touch Screen) รวมประมาณ 200 ตู้ และติดตั้งตู้จำหน่ายตั๋วที่มีช่องรับธนบัตรเพิ่มอีก 50 ตู้ เพื่อติดตั้งตามสถานีต่างๆ ในระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส พร้อมกันไปด้วย ซึ่งจะเริ่มทยอยเปลี่ยนตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2561 ใน 8 สถานีแรก คือ สถานีสยาม สถานีช่องนนทรี สถานีกรุงธนบุรี สถานีวงเวียนใหญ่ สถานีตลาดพลู สถานีบางหว้า สถานีอุดมสุข และสถานีแบริ่ง จากนั้นจะขยายไปจนครบทุกสถานีโดยมีกำหนดแล้วเสร็จในเดือน พ.ย. 2561 รวมระยะเวลาดำเนินการ 6 เดือน 

"การเปลี่ยนระบบนี้ จะทำให้ตู้จำหน่ายตั๋วและประตูอัตโนมัติเข้าและออกสถานี ที่กำลังเปลี่ยนไม่สามารถใช้ตั๋วโดยสารเที่ยวเดียวแบบแถบแม่เหล็กรวมทั้งบัตรโดยสารประเภท 1 วันได้ แต่ยังคงใช้บัตรแรบบิทได้" นายสุรพงษ์ กล่าว

(ภาพบัตรสมาร์ทการ์ดแบบบาง ด้านหน้า)

บีทีเอส-บัตรใหม่-ด้านหน้า


(ภาพบัตรสมาร์ทการ์ดแบบบาง ด้านหลัง)

บีทีเอส-บัตรใหม่-ด้านหลัง

ดังนั้นบริษัทฯ จึงได้จัดแผนทยอยสลับเปลี่ยนไปตามสถานีต่างๆ เพื่อให้เกิดผลกระทบกับผู้โดยสารน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ก็ต้องขออภัยในความไม่สะดวกที่จะเกิดขึ้นในช่วงของการปรับเปลี่ยนระบบบัตรโดยสารบ้าง  

ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกในการใช้งานร่วมกับระบบขนส่งมวลชนสายอื่นๆ ในอนาคต และจึงเชิญชวนให้ผู้โดยสารใช้บัตรแรบบิทแบบเติมเงิน โดยขณะนี้มีโปรโมชั่นลดค่าโดยสาร 1 บาทต่อ 1 เที่ยวการเดินทาง ซึ่งมีราคาถูกกว่าซื้อทีละครั้ง และมีความสะดวกและประหยัดเวลามากกว่า

'บัตรแมงมุม' 2 แสนใบ เริ่มรับวันแรก 23 มิ.ย. ที่สถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงเท่านั้น

ตั๋วร่วม-บัตรแมงมุม

อีกด้านหนึ่ง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. เปิดเผยว่า รฟม.เตรียมแจกบัตรแมงมุมลอตแรก 2 แสนใบ ให้ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง เชื่อมต่อสายสีน้ำเงิน ใช้เดินทางด้วยบัตรใบเดียวฟรี ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. นี้ 

โดยประชาชนสามารถแลกรับบัตรแมงมุมได้เพียงแสดงบัตรประชาชนเพื่อขอรับที่ห้องออกบัตรโดยสาร จำกัดสิทธิ์ 1 คนต่อใบ และเมื่อจะนำไปใช้ในระบบรถไฟฟ้า MRT จะต้องเติมเงินขั้นต่ำ 150 บาท โดยแบ่งเป็นค่ามัดจำบัตร 50 บาท และมูลค่าเงินสำหรับโดยสารรถไฟฟ้า 100 บาท 

ทั้งนี้ บัตรมีจำนวนจำกัดส่วนสาเหตุที่แจกบัตรแมงมุม 2 แสนใบ เฉพาะสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงเท่านั้น ไม่แจกที่สถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เนื่องจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงเป็นโครงการที่ภาครัฐจ้างเอกชนชนเดินรถ แตกต่างจากระบบรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ที่เป็นการให้สัมปทานแก่เอกชนที่ภาครัฐจะได้รับส่วนแบ่งรายได้สำหรับบัตรแมงมุมแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ บัตรบุคคลทั่วไป มีสีน้ำเงิน, บัตรผู้สูงอายุ สีทอง และบัตรนักเรียน/นักศึกษา สีเทา

อย่างไรก็ตาม ระยะต่อไปจะขยายบริการไปใช้บัตรแมงมุมกับรถโดยสารประจำทาง ขสมก. และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ภายในเดือน ต.ค. 2561


ข่าวเกี่ยวข้อง :