เศรษฐกิจ
สภาองค์กรผู้บริโภค เสนอคุมค่าตั๋วรถไฟฟ้าไม่เกิน 33 บาท
สภาองค์กรของผู้บริโภค แถลงข่าว 'หยุดราคาบีทีเอส 104 บาท' ที่ห้องประชุมมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค โดยมีผู้ร่วมแถลงคือ สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค , ผศ.ภญ.ยุพดี ศิริสินสุข ประธานสภาองค์กรของผู้บริโภค ,กมล กมลตระกูล กรรมการนโยบายด้านการเงินการธนาคารสภาองค์กรของผู้บริโภค และ บุญยืน ศิริธรรม กรรมการสภาองค์กรผู้บริโภค
โดยเห็นว่าการเลื่อนการขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายออกไปเป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แล้วราคาเดิม 140 บาทตลอดสายถือว่าแพงเกินไป จึงเรียกร้องให้ภาครัฐมีมาตรการกำหนดราคาที่เข้าถึงได้ทุกคน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้น และทำให้บริการรถไฟฟ้า เป็นบริการขนส่งมวลชนของคนทุกคน ขณะที่ปัจจุบัน คนส่วนใหญ่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว 43% ใช้จักรยานยนต์ 26% ใช้ขนส่งสาธารณะเพียง 24% ในจำนวนนี้ใช้ระบบรางเพียง 2.68% เท่านั้น
พร้อมเสนอแนะนโยบายเกี่ยวกับการคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภคในการใช้บริการรถไฟฟ้าต่อนายกรัฐมนตรี ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ประกอบด้วย
1.ให้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ กทม.เปิดเผยสัญญาการให้บริการรับจ้างวิ่งรับส่งผู้โดยสารในส่วนต่อขยายที่เกินสัญญาสัมปทานหลัก และยืนยันการเก็บค่าโดยสารส่วนต่อขยายทุกเส้นทางตลอดสาย อีก 15 บาท รวมไม่เกิน 59 บาท ซึ่งราคา 44 บาทแรกเป็นตามสัญญาสัมปทานเดิม
2.ให้กำหนดเป็นนโยบายรัฐบาลว่า รถไฟฟ้าเป็นขนส่งมวลชนที่ทุกคนเข้าถึงได้โดยกำหนดค่าบริการไม่เกิน 10% ของรายได้ขั้นต่ำหรือเพดานค่าใช้จ่ายสูงสุดในการใช้บริการขนส่งมวลชนต่อวันของประชาชน และให้นายกรัฐมนครี ตั้งคณะทำงานที่มีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย มีเป้าหมายกำหนดราคาสูงสุดของบริการรถไฟฟ้าที่เชื่อมต่อทั้งระบบ
3.ชะลอการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสายอื่นที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อร่วมกำหนดราคาสูงสุดในการใช้บริการส่วนข้อเสนอระยะยาว ประกอบด้วย
- คิดค่าโดยสารตลอดสายไปกลับไม่เกิน 33 บาทต่อวัน หรือ 10% ของรายได้ขั้นต่ำ และมีการบริหารจัดการร่วมของรถไฟฟ้า
- เร่งใช้ระบบตั๋วร่วมของบริการขนส่งมวลชนทุกประเภท ทั้งรถไฟฟ้ารถเมล์และรถโดยสาร
- กำหนดค่าโดยสารสูงสุดต่อวันของขนส่งมวลชนทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า รถเมล์ เรือโดยสารและอื่นๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
