การเมือง
มหากาพย์ ถวายสัตย์ฯ ! ‘ประยุทธ์’ พเนจร - ‘อภิรัชต์’ นิ่งเงียบหายหนีสื่อบี้ปมร้อน
หลังเตรียมตั้งกระทู้สด 3 ครั้ง ใน 3 สัปดาห์แล้ว ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ได้มาชี้แจงต่อสภา โดยอ้างว่าติดภารกิจที่กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว ผ่านการพเนจรลงพื้นที่ของ นายกฯ ไปสถานที่ต่างๆ จนเกิดเสียงวิจารณ์ว่า ‘หนีสภา’ และ ‘กลัวสภา’ แม้ นายกฯ จะย้ำว่าไม่กลัวก็ตาม
สุดท้ายฝ่ายค้านได้ยื่นหนังสือต่อ ‘ชวน หลีกภัย’ ประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงตาม มาตรา 152 รัฐธรรมนูญ 2560 ในกรณีดังกล่าว แม้ในระเบียบจะยื่นญัตติตาม มาตรา 152 ได้เพียง 1 ครั้งต่อปีเท่านั้น
“เข้าใจว่าเรื่องนี้สังคมให้ความสนใจ ซึ่งผมก็สนใจ ไม่ใช่ไม่สนใจ แต่ก็มีงานเยอะแยะ ดังนั้นจึงอยากให้อะไรก็ตามที่สามารถชะลอไปได้บ้าง หรือลดแรงกดดันไปได้บ้าง ส่วนจะทำได้หรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่ต้องเข้าใจว่าอะไรสำคัญ หรือไม่สำคัญ แต่ทั้งหมดมันก็สำคัญทั้งหมด เพียงแต่ต้องจัดระเบียบให้ดีก็แล้วกัน โอเคนะ เรื่องนี้ผมจะไม่ตอบ พอแล้ว" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เรื่องราว ‘ความจริง’ ทั้งหมด กรณีการกล่าวคำถวายสัตย์ฯไม่ครบถ้วน ไม่มีใครรู้เท่า พล.อ.ประยุทธ์ ที่พยายามเลี่ยงตอบคำถาม โดยเกรงว่าจะเป็นผลผูกพันไปเรื่องอื่นๆ และต้องระวังให้มาก เพราะกระทำต่อหน้าพระพักตร์
“ผมมีขั้นตอนของผมอยู่แล้ว ในการแก้ปัญหาของผมอยู่แล้ว ผมมีฝ่ายกฎหมายของผม ผมก็ต้องฟัง อะไรที่จะมีผลกระทบไปอื่นๆ ต้องระวังให้มากที่สุด เข้าใจไหม เพราะเรื่องนี้ผมกระทำต่อหน้าพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เข้าใจให้ตรงกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
“ก็ผมเชื่อมั่นว่าผมทำครบถ้วนกระบวนการอยู่แล้ว เรื่องอื่นๆก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ก็ไปว่ากันมาล่ะกันนะ” นายกฯ กล่าว
ส่วนเรื่องนี้จะต้องจบด้วยขบวนการศาลหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวสั้นๆว่า “เดี๋ยวก็ว่ากันไป ผมพูดไปแล้ว”
หลังผู้ตรวจการแผ่นดิน ระบุว่า อยู่ระหว่างการหาข้อเท็จจริงและต้องสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ถูกร้อง คือ นายกฯ เมื่อได้ข้อเท็จจริงครบถ้วนจะนำมาพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งใช้เวลา 15 วัน โดยคาดว่า 27ส.ค.นี้ จะมีการพิจารณาจะส่งให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ หรือศาลปกครองวินิจฉัยหรือไม่
ด้าน ‘ดิสทัต โหตระกิตย์’ เลขาธิการนายกฯ เปิดเผยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอขา นายกรัฐมนตรีได้ส่งหนังสือชี้แจงเรื่องปมถวายสัตย์ปฎิญาณตนไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญต่อผู้ตรวจการแผ่นดินแล้ว โดยขอไม่เปิดเผยรายละเอียด แต่เป็นการชี้แจงรายละเอียดสั้นๆ กระชับ ได้ใจความตามระเบียบขั้นตอน ซึ่งหนังสือของผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ได้มีการระบุคำถามเพียงแต่ให้ชี้แจงข้อเท็จจริง
ส่วนจะนำเนื้อหาคำชี้แจงที่ยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดินไปอภิปรายในสภาฯด้วยหรือไม่นั้น เลขานายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอรอดูก่อน
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ ‘วิษณุ เครืองาม’มือกฎหมายของรัฐบาล เคยระบุถึงขั้นตอนจากผู้ตรวจการฯไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินจะส่งต่อไปยังศาลหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่ตามขั้นตอนเรื่องจะจบที่ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ไม่ได้ ต้องไปจบที่ศาลรัฐธรรมนูญ เพราะผู้ตรวจการแผ่นดินไม่มีอำนาจชี้ขาด
หากดูปฏิทินจะเห็นว่า ช่วงวันที่ 28-29 ส.ค.นี้ สภาฯได้งดประชุม เพราะติดการประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียน อีกทั้ง ‘ประธานชวน’ ออกมาระบุว่าจะสามารถเปิดอภิปรายได้ช่วงต้นเดือน ก.ย.นี้ แต่ไม่เกินวันที่ 18 ก.ย.นี้
หากดูไทม์ไลน์แล้ว จะอยู่ในช่วงรอยต่อที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน จะพิจารณาว่าจะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ หรือศาลปกครองวินิจฉัยหรือไม่ ซึ่งผลการพิจารณาของ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ย่อมมีผลผูกพันต่อรัฐสภาเช่นกัน นั่นคือการวางเกมของ ‘ฝ่ายค้าน’ กับ ‘ฝ่ายรัฐบาล’ จะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร และท่าทีของ ‘ประธานชวน’ ด้วย
ถือเป็นมหากาพย์ที่ทอดเวลามายาวนานนับเดือน และเป็นสิ่งที่ ‘ฝ่ายค้าน’ ไปให้สุดได้ยาก ‘ฝ่ายรัฐบาล’ ก็ต้องระมัดระวังทุกฝีก้าว หากดูจากสิ่งที่ นายกฯ เคยชี้แจงก็จะเห็นถึงนัยสำคัญต่างๆ
ประจวบกับช่วง 2 สัปดาห์กว่าที่ผ่านมา ที่ ‘บิ๊กแดง’พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. งดเป็นข่าวหรือออกงานต่างๆที่พบกับสื่อ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ได้มอบหมายให้ ‘บิ๊กเบ็ก’พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผบ.ทบ. เป็นประธานทดสอบสมรรถภาพร่างกายผู้บังคับบัญชาระดับสูงและกำลังพล ใน บก.ทบ. แทน ซึ่งตามกำหนดการเดิมจะเป็น พล.อ.อภิรัชต์
ย้อนไปเมื่อ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.อภิรัชต์ ก็ได้มอบหมายด่วนให้ พล.อ.กู้เกียรติ ศรีนาคา ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ตรวจเยี่ยมการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย การทดสอบภาษาอังกฤษและการทดสอบความรู้ที่เกี่ยวข้องการปฏิบัติงานของผู้บังคับหน่วยระดับกรมและกองพัน ที่ ร.ร.เสนาธิการทหารบก โดยทาง จนท.ทหาร แจ้งว่า ผบ.ทบ.ติดภารกิจ
ย้อนกลับไปอีกเมื่อ 14 ส.ค. ได้มอบหมายให้ พล.อ.ณัฐพล รองผบ.ทบ. มาทำพิธีปิดการแข่งขันกีฬาภายใน ที่ บก.ทบ. แทน แม้ช่วงท้ายพิธีปิดฯ พล.อ.อภิรัชต์ จะเดินมาดูด้วยตนเอง ด้านหลังเวทีเงียบๆก็ตาม
หลังจากก่อนหน้านี้ได้ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์ ถึงการที่กองทัพจะไม่ล้ำเส้น ไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง ไม่ยอมให้เกิดการรัฐประหาร-ปฏิวัติโค่นอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ หลังกองทัพถอยออกมาจากการเมือง หลังการเลือกตั้งและ คสช. จบภารกิจ พร้อมกล่าวโจมตีบางพรรคการเมือง ที่เพิ่งก่อตั้ง 1-2 ปี มีรูปแบบของการโฆษณาชวนเชื่อไปยังวัยรุ่น โดยใช้ข่าวปลอม ให้เกิดความรู้สึกเป็นปฏิปักษ์กับกองทัพและสถาบันกษัตริย์ เปรียบสมัยคอมมิวนิสต์ช่วงปี 2513 - 2523
แต่ประเด็นเหล่านี้ไม่สำคัญเท่ากรณีถวายสัตย์ฯ ที่สื่อก็รอถาม พล.อ.อภิรัชต์เช่นกัน เพราะเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนทางการเมือง ที่ฝ่ายค้านเองต้องการ ‘คำตอบ-คำชี้แจง’ จากพล.อ.ประยุทธ์
และเชื่อกันว่าคำตอบจาก พล.อ.อภิรัชต์ ในเรื่องนี้จะมีน้ำหนักอย่างมีนัยสำคัญด้วย จึงทำให้มีการตั้งข้อสงสัยว่าการที่ พล.อ.อภิรัชต์ ไม่ต้องการเป็นข่าวหรือออกสื่อช่วงนี้ เป็นเพราะเรื่องนี้หรือไม่
แต่ที่ผ่านมา พล.อ.อภิรัชต์ ก็ไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อบ่อยนัก จะมีวงรอบการให้สัมภาษณ์ แต่เมื่อให้สัมภาษณ์ครั้งใดย่อมมีประเด็นเสมอ ทั้งคำที่ใช้ ประเด็นต่างๆ แม้จะเพียงประโยคสั้นๆก็เป็นประเด็นมาแล้ว รวมทั้งแอคชั่นทางการเมืองก่อนหน้านี้ด้วย ที่ พล.อ.อภิรัชต์ ก็เปิดหน้าชัดเจน แม้จะย้ำจุดยืนเป็นกลางของตนและกองทัพก็ตาม
ท่ามกลางเสียงระเบิดกรุงเทพฯ ที่ยังตามหา Mastermind ไม่ได้ และปมถวายสัตย์ฯที่ร้อนแรงขึ้นมา สังคมยังคงรอคำตอบที่ชัดเจนจากเรื่องนี้ ต่างรอดูว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร และใครจะต้องมีคนรับผิดชอบหรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
