ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการหารือกับตัวแทนพรรคการเมือง เพื่อวางแนวทาง ให้สภาผู้แทนราษฎรหาทางออกวิกฤตการเมือง ว่า เป็นการหารือภายใน กับตัวแทนพรรคการเมืองเท่านั้น ซึ่งฝ่ายสภาผู้แทนราษฎรก็ไม่สามารถแทรกแซงการทำงานของรัฐบาลได้ แต่หากการหารือวันนี้ได้ข้อสรุป อย่างไร ก็อาจส่งเป็นข้อแนะนำไปยังฝ่ายที่เกี่ยวข้อง หรือส่งให้รัฐบาล
ส่วนแนวทางจะเปิดสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ เพื่อหารือและหาทางออกร่วมกัน ชวน กล่าวว่า แม้การเปิดประชุมจะไม่ทำให้หาทางออกได้ทันที แต่ก็ถือเป็นหนทางหนึ่งที่ให้ทุกฝ่ายมีเวทีหาทางออกร่วมกัน ขณะเดียวกันก็เหลือเวลาอีก 10 วัน ก็จะเปิดประชุมเปิดประชุมสภารัฐสภาวมัยสามัญ ครั้งที่ 2 แล้ว
ส่วนที่กลุ่มผู้ชุมนุมหันหลัง และไม่เชื่อมั่นในระบบรัฐสภา ชวน กล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความเห็นส่วนตัว ซึ่งภารกิจแต่ละฝ่ายก็ต่างทำหน้าที่กันไป ส่วนที่เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ส่วนตัวไม่ขอก้าวล่วง เพราะแต่ละคนก็มีความเห็นที่แตกต่างกันไป
ส่วนข้อเรียกร้อง ของผู้ชุมนุม และหลายพรรคการเมือง ที่เห็นว่าต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทันทีนั้น ชวน กล่าวว่าเบื้องต้นคณะกรรมาธิการ พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมก่อนรับหลักการ ทำเรื่องขอขยายเวลาไปอีก 15 วัน ซึ่งการจะพิจารณาญัตติ เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต่อหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมาธิการ จะส่งเรื่องเข้ามา
'วิษณุ' เห็นด้วยเปิดสภาฯสมัยวิสามัญคือทางออก
วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังหารือเพื่อหาทางออกในการเสนอขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญแต่ไม่สามารถทำได้โดยเร็วเนื่องจากมีพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมสมัยสามัญลงซึ่งเหลือช่วงเวลาประมาณอีก 10 วันแต่หากจะเปิดสภาสมัยวิสามัญก็สามารถทำได้แต่อยู่ระหว่างการหาช่องทางว่าจะทำอย่างไรซึ่งผู้เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการอยู่
ส่วนรัฐบาลจะเป็นฝ่ายเสนอเปิดประชุมเองหรือไม่ วิษณุ กล่าวว่า สามารถเป็นไปได้ทุกทาง เพราะ มาตรา 122 รัฐบาลเป็นคนเสนอขอเปิดเอง และมาตรา 123 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะเข้าชื่อ 1 ใน 3 ซึ่งการเข้าชื่อสมาชิกเป็นการเปิดซึ่งรัฐบาลจะเป็นผู้ปิดดังนั้นต้องประสานกันให้ดีไม่เช่นนั้นอาจเกิดปัญหาขึ้น
ส่วนที่ประชุม ครม. จะหารือในวันพรุ่งนี้ (20 ต.ค. 2563) หรือไม่ วิษณุ ระบุยังไม่แน่ชัด อาจจะมีการหารือในวันนี้ ก็ได้แต่ที่สุด ก็ต้องผ่านมติของ ครม. อย่างไรก็ตามคาดว่าจะหารือในวันพรุ่งนี้ทีเดียว วิษณุยังไม่ทราบระยะเวลาว่าใช้กี่วันที่เหมาะสมในการเปิดสมัยวิสามัญด้วย
วิษณุ ยอมรับว่า สถานการณ์วันนี้พัฒนาไปในทิศทางที่หนักขึ้นกว่าเดิม แต่ไม่ถึงขั้นรุนแรง ดังนั้นการนำเรื่องนี้ไปพูดคุยกันในสภา จะมีประโยชน์และข้อดีมากกว่าข้อเสีย ส่วนจะยังคงปล่อยให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนไหวเช่นนี้ต่อไปหรือไม่ วิษณุกล่าวว่า ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายกำลังหารืออยู่ทั้งชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา วิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้านและรัฐบาล และไม่ทราบว่าฝ่ายใดหรือเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเปิดเวทีเจรจากับผู้ชุมนุมเช่นกัน
สุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการหารือ 3 ฝ่ายในวันนี้ ว่า วันนี้จะต้องทำสังคมได้มั่นใจว่าสามารถแก้ปัญหาและหาทางออกเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนในเวลานี้ได้ ซึ่งจะต้องดูมูลเหตุของวิกฤตที่เกิดขึ้นในครั้งนี้และหาทางแก้ไข ซึ่งการถกนี้จะต้องจบโดยเร็วแม้จะไม่ได้รายละเอียดมากนักแต่ก็ต้องมีแนวทางที่แน่นอน และเชื่อว่ามาตรการสำคัญในวันนี้คือการเปิดประชุมแบบวิสามัญ แบบเร่งด่วน แม้จะมีเวลาแค่ 10 วันนี้ แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็รวดเร็วและอะไรก็เกิดขึ้นได้แม้แต่ 1-2 วันก็ไม่ควรปล่อยเวลาทิ้งไป และส่วนตัวก็เห็นว่าช่วงเวลา 10 วันก่อนเปิดสมัยประชุมแบบสามัญก็ยังช้าไปด้วย
โดยเมื่อเปิดประชุมแล้วสาระที่จะมีการหารือกันก็คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ถือว่าเป็นข้อเรียกร้องชัดเจน ว่าจะรับหรือไม่รับหรือต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราใด ดังนั้นก็เห็นควรที่จะต้องเปิดประชุมแบบวิสามัญเพื่อลงมติโหวต และเชื่อว่าหากโหวตผ่านสถานการณ์ก็จะดีขึ้น แต่ถ้าไม่ผ่านก็จะสามารถยื่นต่อได้ในสมัยประชุมแบบสามัญ
นอกจากนี้จะต้องหารือเรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ด้วยว่าออกโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หรือเหมาะสมหรือไม่ หากไม่เหมาะก็จะทำให้สถานการณ์ไม่ดีขึ้น และควรจะยกเลิกหรืไม่ รวมถึงการให้คำแนะนำท่าทีรัฐบาลต่อผู้ชุมนุม และควรที่จะให้มีการเปิดเจรจากัน รวมถึงท่าทีของรัฐบาลที่มีการข่มขู่ ต้องลดท่าทีนี้ด้วยหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้ต้องตระหนักว่า นายกรัฐมนตรีต้องเป็นผู้แก้ปัญหา หากสภาจะมีมติ หรือแนะนำอะไรบางอย่างกับนายกรัฐมนตรีก็เชื่อว่าจะมีน้ำหนัก ไม่น้อยกว่าผู้ชุมนุม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :