นพ.อภิชาติ วชิรพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร กล่าวว่า ห่วงการหวนกลับมาระบาดของโควิด-19 ว่าการป้องกันไม่ให้โควิด-19กลับมาระบาดได้ใหม่ ระลอก 2 ประชาชนยังต้องเคร่งครัดการปฏิบัติตัว แม้มีการผ่อนปรนมาตรการให้เดินทางสะดวกขึ้น การทำธุรกิจ ออกจากบ้านไปทำงาน ยังต้องสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ และมีระยะห่างระหว่างบุคคลที่เหมาะสม 1-2 เมตร ต้องหมั่นออกกำลังกาย ซึ่งการออกกำลังกายนี้ ประชาชนต้องวิ่งห่างๆ และสวมหน้ากากอนามัย อาจไม่ชิน แต่ต้องทำให้ได้ เพราะป้องกันการได้ละอองฝอยไอจามจากผู้อื่น
พร้อมกล่าวว่า ขณะนี้เมื่อสถานการณ์ของโควิดเริ่มดีขึ้น ทางสถาบันได้มีการทำความสะอาดห้องพักผู้ป่วย ห้องความดันลบ ฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวี และเตรียมให้การอบรมเจ้าหน้าที่และบุคลากรทั้งเชิงความรู้การใส่ ถอดชุดพีพีอี และการปรับทัศนคติความคิดในการปฏิบัติงาน
ด้าน นพ.วีรวัฒน์ มโนสุทธิ รองผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร กล่าวว่า พฤติกรรมของประชาชนมีความสัมพันธ์กลับมาเกิดโรคโควิด-19 ได้อีกครั้ง โดย พบว่าปกติของผู้ป่วยโควิด-19 ใช้เวลารักษาตัวในโรงพยาบาลแค่ 1-2 สัปดาห์ แต่หากผู้ป่วยคนนั้น มีภาวะดื่มสุราหนัก สูบบุหรี่จัด อาจทำให้ตับแข็ง ถุงลมโป่งพอง หลอดเลือดหัวใจ ส่งผลให้อาการรุนแรงมากขึ้น เสี่ยงชีวิตได้ง่าย ดังนั้นหากเป็นไปได้ขอให้เลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้ ทั้งการดื่มสุรา สูบบุหรี่ หลังเกิดปรากฎภาพคนแห่ซื้อเครื่องดื่มแอลกฮอล์ในห้างสรรพสินค้าขายส่ง