ไม่พบผลการค้นหา
ถึงคราวแม่ดัน ก้อย นฤมล พงษ์สุภาพ นักแสดงรุ่นใหญ่ ส่งต่อวิชาให้ลูกสาว น้องออม นรวรรณ เศรษฐรัตนพงศ์ จนสามารถผ่านการคัดเลือก ขึ้นแท่นนางเอกซีรีส์วัยรุ่นเรื่องแรก

สร้างผลงานเป็นที่ชื่นชอบและประทับใจแฟนๆ ในวงการบันเทิง มากว่า 20 ปี ล่าสุด ถึงคราวลูกสาวของ นักแสดงรุ่นใหญ่ ก้อย นฤมล พงษ์สุภาพ ที่ตามรอยแม่ เข้าวงการ ขึ้นแท่นนางเอกซีรีส์วัยรุ่นเรื่องแรก น้องออม นรวรรณ เศรษฐรัตนพงศ์ วัย 17 ปี ที่ผ่านการคัดเลือกนักแสดงจากผู้สมัครหลายร้อยคน เพื่อมาร่วมแสดงในซีรีส์ HOTEL STARS สูตรรักนักการโรงแรม โดยการเข้ามาแสดงซีรีส์ ของลูกสาว ครั้งนี้ ก้อย นฤมล เล่าให้ทีมข่าว วอยซ์ออนไลน์ ฟังว่า น้องออม มาสมัครและผ่านการคัดเลือกด้วยตัวเอง โดยที่เธอแค่คอยดูอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ซึ่งตอนแรกไม่มีใครทราบว่าน้องออม คือลูกสาวของตน จนน้องออมผ่านการคัดเลือกเข้ามาแสดงซีรีส์

ก้อย นฤมล

ในขณะที่ น้องออม นรวรรณ เผยว่า ประทับใจเวลาแม่แสดง บางบทเหมือนไม่ใช่แม่เลย แม่ร้องไห้ แม่โกรธ เราไม่เคยเห็นแม่เป็นแบบนั้น สนุกมากเวลาดูแม่เล่น จริงๆ ชอบการแสดงอยู่แล้ว เพราะเห็นคุณแม่เล่น เลยอยากลองบ้าง จึงมาคัดเลือกดู โดยมีคุณแม่เป็นที่ปรึกษา เป็นโค้ชให้

ก้อย นฤมล เล่าเสริมว่า อาชีพนักแสดงสามารถต่อยอดและพัฒนาไปได้อีกในยุคนี้ ดูแล้วเขาชอบจริง เลยลองให้เขามาแคสดู ซึ่งเขาก็ทำได้ โดยไม่ได้พึ่งแม่เลย และตนเองก็เข้าวงการบันเทิงมาตั้งแต่อายุ 17 ปี เหมือนลูกสาว แต่ 17 ของเขากับเรา มันไม่เหมือนกัน สิ่งสำคัญที่บอกลูกเสมอคือ วินัย และความอดทน เพราะว่าเขาเคยสบายเราดูแลตลอด บางทีเด็กอาจจะมีงอแง แต่แม่ฝึกมาอย่างดี "แน่นเลยคะ (หัวเราะ)"

น้องออม : เรื่องของระเบียบวินัย คือ เรื่องของเวลา เวลามากองไม่ให้สาย และแบ่งเวลาการเรียนให้ถูก ตอนนี้หนูอยู่ ม.6 โรงเรียนสาธิตประสานมิตร ต้องเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย แบ่งเวลาเรียนพิเศษ อ่านหนังสือ ทำการบ้าน แบ่งเวลาท่องบท ก็มีแอบเครียด

ส่วนการมาเล่นซีรีส์ครั้งนี้ น้องออม เผยว่า คาแรคเตอร์ในละคร เหมือนตัวเอง เป็นคนเรียบร้อย และบท นุ๊ก ก็ไม่ได้ซ่ามาก เรียบร้อย ตั้งใจทำงาน

ก้อย นฤมล : ที่ต้องปรับคือบทโกรธ ใช้อารมณ์แรงๆ เขาไม่ค่อยโกรธแรงๆ โมโห อันนี้ต้องฝึกฝน

ก้อย นฤมล

อนาคตในวงการบันเทิง

น้องออม : หนูอยากเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย คิดว่าน่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดี และอยากยึดอาชีพนักแสดงเหมือนกันค่ะ

ก้อย นฤมล : แม่เลี้ยงลูกแบบแล้วแต่เขา ก็คอยดูอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ก็คอยประคองว่าเขาจะไปแนวไหน ถ้าเรียนควบคู่กับทำงานไปด้วย เพราะเราก็ทำมาแล้ว และสำเร็จ วางแผนประมาณนี้ให้กับลูก เหมือนคุณแม่ทั่วไป ถ้าเขาชอบทำได้ดี ก็ทำเต็มที่เลย แม่ดัน น้องคือที่สุดของชีวิต เหมือนว่าเป็นตัวของเรา ทุกอย่างให้เขาหมด ถ้าเขาได้ดี ก็เหมือนเป็นตัวแม่ด้วย เขาคือแม่ แม่คือเขา

สิ่งที่อยากบอกลูกในการเป็นนักแสดง “เวลาเห็นน้องแสดง แม่มองว่าการแสดงไม่มีผิดไม่มีถูก มีแต่ถูกใจ ฉะนั้นต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ อยากให้เขารักการแสดงจริงๆ แล้วมันจะออกมาดีเอง โดยที่ไม่ต้องแสดงอะไรเลย แล้วมันจะสนุก มันจะไม่เหนื่อยเลย”