พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ สั้นๆ ว่า "ไม่มีปัญหาอะไรหรอก"
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมงาน "วีว่าอาเซียน ศิลปะการแสดงชั้นเยี่ยมของอาเซียน สู่เวทีโลกซึ่งในปีแห่งวัฒนธรรมอาเซียน 2562" จาก 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน โดยจัดขึ้นที่กรุงเทพฯระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน - 3 กรกฎาคม ก่อนจะไปแสดงต่อที่ กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก และกรุงอัมสเตอร์ดัมและกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 6-16 กรกฎาคมนี้ โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้บอกกับนักแสดงว่า ให้ภาคภูมิใจในอาเซียน
พร้อมกันนี้ได้ชมการแสดงงานประเพณีบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขน มหกรรมหน้ากากนานาชาติประจำปี 2562 ที่อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ในวันที่ 5 - 7 กรกฎาคมนี้ ก่อนจะเชิญให้นักข่าวหญิงสายการเมือง ที่อยู่ จ.เลย ใส่หน้ากากไปแสดงการละเล่น เต้นผีตาโขนให้ดู โดยพูดหยอกล้อว่าจะใส่หรือไม่ใส่สวยดูดีเหมือนกัน
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับคณะนักแสดง ก่อนจะหยิบหน้ากากมาสวมใส่เอง โดยบอกว่า"หน้ากากอันนี้หนักเหมือนกัน มองไม่ค่อยเห็น" จากนั้นโชว์สัญลักษณ์มือ ไอเลิฟยู ให้กับผู้ร่วมงาน
ส่วนวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีที่น่าสนใจ อาทิ กระทรวงการคลัง ขอความเห็นชอบการปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2560 เรื่อง การปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีมื่อวันที่ 18 ธันวาม 2555 เรื่องการให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วนของรัฐบลไทย ในโครงการอาเซียนโปแตช และ ขอความเห็นชอบวงเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2563 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพและการรถไฟแห่งประเทศไทย
กระทรวงคมนาคม ขออนุมัติงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น และขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ เพื่อดำเนินการจ้างที่ปรึกษาเพื่อออกแบบรายละเอียดงานโยธาโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และ รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อการเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคายระยะที่2 (ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย) และ ขอความเห็นชอบการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุน ระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 รวม 4 ฉบับ
ด้านสํานักงานปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี เสนอขออนุมัติการจ่ายเงินทดแทนการประกันชีวิตย้อนหลัง แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เสียชีวิต หรือ บาดเจ็บทุพพลภาพ ถึงขั้นปลดออกจากราชการ เพิ่มเติม
