วันที่ 10 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือกับ เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า ได้มีการพูดคุยเรื่องดอกเบี้ย โดยยืนยันว่า ไม่ได้มีการอำนาจไปก้าวก่าย และ ธปท. เป็นองค์กรอิสระ เราพูดคุยกันด้วยเหตุด้วยผล

เศรษฐา กล่าวว่า ไม่ได้ไปสั่ง ตนอธิบายเหตุผลให้ฟัง ผู้ว่าการ ธปท. ก็อธิบายเหตุผลในสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ในแง่สถานการณ์ต่างประเทศ สถานการณ์เงินเฟ้อทั้งหมด ซึ่งเงินเฟ้อติดลบให้ทาง ธปท. แถลงเองดีกว่า 

ทั้งนี้ เศรษฐา ระบุว่า ได้มีการพูดคุยเรื่องผลดี ผลเสีย และตนได้อธิบายถึงสถานการณ์ตลาดปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจต่างๆ หรือเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนทางด้านหนี้สิน โดยทางผู้ว่าการ ธปท. ก็ได้มาบอกว่า ทำอะไรอยู่บ้าง เช่น ได้ดำเนินการเรื่องแก้ไขหนี้สินระยะยาว ตนจึงฝากผู้ว่าการ ธปท.ว่า สามารถนัดหมายให้ตนไปพูดคุย กินกาแฟ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ เผื่อจะได้พูดคุยอย่างต่อเนื่อง 

เศรษฐา กล่าวอีกว่า ได้มีการพูดคุยหลายเรื่อง ทั้งเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ซึ่งเห็นว่า ควรนำเข้าไปหารือในที่ประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตดีกว่า เพราะเป็นการประชุมที่เปิดเผย ไม่มีการลอบบี้กัน พูดคุยได้อย่างเต็มที่ แสดงความคิดเห็นได้อย่างตรงไปตรงมา 

อย่างไรก็ตาม เศรษฐา ยืนยันว่า ไม่ได้หารือว่าประเทศอยู่ในภาวะวิกฤติหรือไม่ แต่เป็นการพูดคุยเศรษฐกิจโดยรวมมากว่า 

ส่วนกรณีหุ้นกู้หลายตัวผิดนัดชำระนั้น นายกรัฐนตรี กล่าวว่า ได้สั่งการไปแล้วให้มีการดูว่า หุ้นกู้ที่มี Low Investment Grade เราต้องไปพูดคุยว่าจะทำอย่างไรบ้าง

ทั้งนี้ ในส่วนของเงินเฟ้อที่ติดลบ หากหักมาตรการช่วยเหลือด้านพลังงานทำให้เงินเฟ้อติดลบไม่มากนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่ทำให้เงินเฟ้อปรับขึ้นมากนัก อาจจะแค่ 0.1-.02 เท่านั้น ซึ่งควรให้ ธปท.ชี้แจงดีกว่า ซึ่งการลดค่าพลังงานเป็นหน้าที่รัฐบาลที่ต้องลดรายจ่ายของประชาชน เราต้องไปดูโครงสร้างพลังงานที่ทุกคนยอมรับกันได้