วันที่ 3 มี.ค. 65 ที่อาคารรัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจาก วีรวิชญ์ พีรยศพัฒน์ นายกเทศมนตรี ต.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เรื่อง ขอความอนุเคราะห์ตรวจสอบกรณีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต สืบเนื่องจาก ตนได้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรี เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 64 ก็ได้รับรายงานจากสำนักตรวจเงินแผ่นดิน จ.บุรีรัมย์ เรื่องเงินขาดบัญชี และพบการทุจริต จำนวน 9,129,229 บาท ในปี 2561 จึงได้ตรวจสอบข้อมูลจากผู้ที่เกี่ยวข้องในเทศบาล ต.สตึก แต่กลับมิได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร อีกทั้งยังมีการประวิงเวลาในการนำส่งเอกสารให้กับหน่วยงานตรวจสอบ
นอกจากนี้ ยังพบข้อพิรุธสงสัยหลายประการ และเกิดความขัดแย้งในเทศบาลเป็นจำนวนมาก เนื่องจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องล้วนเป็นเจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้ากอง/งานหลายท่าน จนนำไปสู่การร้องเรียนผู้บริหารและปลัดเทศบาลตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง จึงขอให้คณะ กมธ. ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อความถูกต้องและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ยังได้รับยื่นหนังสือจาก จินดา พุ่มเจริญ ผู้แทนชุมชนชาวตลาดบ่อบัว ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เรื่อง ขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทยเลิกสัญญาเช่าที่ดินกับ บริษัท บ่อบัวพัฒนา จำกัด และถอนฟ้องผู้เช่าเดิม โดยชุมชนชาวตลาดบ่อบัว ซึ่งค้าขายที่นี่มานานกว่า 40 ปี ขณะนี้กำลังถูกบริษัท บ่อบัวพัฒนา จำกัด และการรถไฟฯ ร่วมกันฟ้องขับไล่และเรียกร้องค่าเสียประโยชน์เป็นจำนวนเกือบล้านบาทต่อห้อง วันที่ 14 มิ.ย. 2563 มีหนังสือจาก รฟท.ให้ระงับการขยายปลูกสร้างอาคารและเรียกรับประโยชน์ตามสัญญาเช่า 28 มี.ค. 2557 แต่บริษัทฯ ยังทำการปลูกสร้างอาคารและเรียกเก็บค่าเช่าแผง ค่าจอดรถมาตลอดจนถึงปัจจุบัน ตัวแทนชุมชนได้เรียกร้องไปหลายหน่วยงาน แต่ไร้ผลตอบรับ ปัจจุบันหนึ่งปีผ่านไป การรถไฟฯ ยังมิได้ยกเลิกสัญญาเช่ากับบริษัท บ่อบัวพัฒนา จำกัด แต่ได้แต่งตั้งทนายเพื่อฟ้องขับไล่ชาวบ้าน ทำให้ชาวชุมชนตลาดบ่อบัวได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า คณะ กมธ. ได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่ของรัฐจำนวนมาก โดยในกรณีของนายกเทศมนตรี ต.สตึก ซึ่งเป็นถึงหัวหน้าหน่วยงานในท้องถิ่นกลับยังถูกกลั่นแกล้งเมื่อเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่มีการทุจริตภายในหน่วยงาน และต้องมายื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะ กมธ. ทั้งนี้ คณะ กมธ. จะรับเรื่องดังกล่าวมาตรวจสอบตามขั้นตอนต่อไปเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
สำหรับกรณีของชุมชนตลาดบ่อบัวนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ฝากไปยังผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยว่า ขอให้เห็นความสำคัญของพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนเรื่องพื้นที่ทำกินและอยู่อาศัย หากเคร่งครัดกฎหมายมากไป ประชาชนจะอยู่ไม่ได้ ทั้งยังตอกย้ำปัญหาด้านความเหลื่อมล้ำ ที่ละเว้นผู้มีอิทธิพล แต่บังคับใช้กฎหมายเต็มที่กับประชาชนที่ไม่สามารถตอบโต้ได้ ขอให้ผู้ว่าการรถไฟฯ คิดถึงหัวอกประชาชนด้วย อย่ารับใช้แต่นายทุนและนักการเมือง