ไม่พบผลการค้นหา
หนังสือพิมพ์ของรัฐบาลจีนรายงานว่า สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ระบุกับกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ให้ “มุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่การทุ่มสรรพกำลังตนไปกับการต่อสู้” ในการเตรียมความพร้อมสำหรับสงคราม

รูปภาพของสี ซึ่งเพิ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ในสมัยที่ 3 ในชุดเครื่องแบบทหาร ระหว่างการเยือนศูนย์บัญชาการ ถูกตีพิมพ์ขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ People's Daily หนังสือพิมพ์ของรัฐบาลจีน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (9 พ.ย.)

สีกล่าวว่ากองทัพจีนต้อง “เสริมกำลังการฝึกทหารอย่างครอบคลุม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทำสงคราม” โดยก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีจีนได้เตือนในการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์ เมื่อช่วงกลางเดือน ต.ค.ที่ผ่านมานี้ว่า “พายุอันตราย” กำลังก่อตัวขึ้นที่ปลายขอบฟ้า

“มุ่งเน้นสรรพกำลังทั้งหมด (ของคุณ) ในการต่อสู้ ทำงานหนักในการต่อสู้ และปรับปรุงความสามารถ (ของคุณ) ในการเอาชนะ” สีกล่าว พร้อมย้ำว่า กองทัพยังต้อง “ปกป้องอธิปไตยของชาติและความมั่นคงของชาติอย่างเด็ดเดี่ยว” เนื่องจากจีนตกอยู่ในสถานการณ์ความมั่นคงที่ “ไม่มั่นคงและไม่แน่นอน” รายงานของ People's Daily อ้างคำพูดของสี

สีเคยกล่าวเพื่อสั่งให้กองทัพให้ความสำคัญ กับการเตรียมการสงครามในปี 2556 ไม่นานหลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ ก่อนที่สีจะกล่าวย้ำในลักษณะดังกล่าวอีกครั้งในปี 2560 และล่าสุดเมื่อวานนี้ โดยนักวิเคราะห์การเมืองชี้ว่า สีได้ยกระดับสำนวนโวหารของตนอย่างเห็นได้ชัดในครั้งล่าสุดนี้ ในการเยือนศูนย์บัญชาการ ที่คล้ายกันกับเหตุการณ์เมื่อปี 2559 โดยในครั้งนี้ สีบอกเจ้าหน้าที่ว่าพวกตนต้องมี “ความจงรักภักดี” และ “การมีไหวพริบ” ในการต่อสู้ และ “กล้าหาญและสามารถในการเอาชนะสงครามได้”

“เขา (สี) กำลังส่งข้อความไปยังสหรัฐฯ และไต้หวัน” วิลลี่ แลม นักวิเคราะห์อาวุโสของมูลนิธิเจมส์ทาวน์ในวอชิงตันกล่าว แม้ว่าความแข็งแกร่งทางทหารของจีน จะยังไม่เทียบเท่ากับสหรัฐฯ แต่การตัดสินใจของสีนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการคำนวณเหตุการณ์อย่างมีเหตุผลเสมอไป แลมวิเคราะห์เสริม

สีกล่าวโจมตีมุ้งเป้าแบบแอบแฝงไปยังสหรัฐฯ ที่เริ่มเปิดเผยการให้การสนับสนุนแก่ไต้หวันมากขึ้นเรื่อยๆ ในการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 เมื่อเดือนที่แล้ว ณ กรุงปักกิ่ง โดยสีตำหนิ “การแทรกแซงจากต่างประเทศ” ซึ่งส่งผลให้เกิดความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้น สียังมองอีกว่าการยึดไต้หวันคืนมา เป็นส่วนสำคัญในมรดกของตน หลังการกล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ว่า “เราจะไม่มีวันให้คำสัญญาว่าจะล้มเลิกใช้กำลัง” เพื่อยึดไต้หวันคืนมาเป็นของตน

โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้คำมั่นในหลายต่อหลายครั้งว่า สหรัฐฯ จะปกป้องไต้หวันหากไต้หวันถูกโจมตี โดยหลังจากที่ แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินทางเยือนไต้หวันในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา มีรายงานว่ากองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ได้เคลื่อนเรือรบและเครื่องบินหลายลำเข้าไปใกล้กับเส้นมัธยฐาน ซึ่งเป็นพรมแดนที่ไม่เป็นทางการระหว่างจีนและไต้หวันในช่องแคบไต้หวัน

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สีเริ่มใช้น้ำเสียงที่ก้าวร้าวมากขึ้น เพื่อกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่กองทัพของตน "กล้าต่อสู้" และเพิ่ม "จิตวิญญาณการต่อสู้" เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ในสภาพแวดล้อมทางการเมืองที่ไม่เป็นมิตร โดยในการกล่าวเปิดการประชุมสมัชชาใหญ๋พรรค สีพูดคำว่า “โต้วเจิง” ซึ่งแปลว่า “การดิ้นรน” กว่า 17 ครั้ง ตอกย้ำวาทกรรมของ เหมาเจ๋อตุง ในเรื่อง “การต่อสู้ทางชนชั้น” และการต่อสู้กับอิทธิพลของจักรวรรดินิยมต่างชาติ สียังพูดคำว่า “ความมั่นคง” ในแถลงการณ์อีกประมาณ 50 ครั้ง

ในสัปดาห์นี้ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ยังได้วิจารณ์การเยือนไต้หวันของ เกร็ก แฮนด์ส รัฐมนตรีการค้าสหราชอาณาจักร และเตือนรัฐบาลสหราชอาณาจักรให้ “ยุติการส่งสัญญาณที่ไม่ถูกต้องไปยังกองกำลังแบ่งแยกดินแดนเพื่อเอกราชของไต้หวัน”


ที่มา:

https://www.theguardian.com/world/2022/nov/09/xi-jinping-tells-chinas-army-to-focus-on-preparation-for-war?CMP=Share_iOSApp_Other&fbclid=IwAR3XQUB2tsw3XOBjktC9PpeI5JnrluHasNyqk8-sW_g5Fnxj2_ZSmdx2KcU