วันที่ 22 มี.ค. แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมปฐมนิเทศหลักสูตร การป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) รุ่นที่ 1 ถึงการเดินทางเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตามคำเชิญของสมเด็จฮุนเซน ประธานองคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ว่า เป็นการสานสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ สองพรรคการเมือง คือพรรคประชาชนกัมพูชา และพรรคเพื่อไทย เป็นการพูดคุยที่ดีมาก มีล่ามคอยแปลภาษาให้ ซึ่งการพูดคุยในครั้งนี้เป็นการเรียนรู้กันทั้งสองฝ่าย ทางกัมพูชาให้การต้อนรับที่อบอุ่น ทุกคนกลับมาก็มีความประทับใจเป็นอย่างมาก
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกับ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในการแลกเปลี่ยนการทำพรรคการเมืองกันหรือไม่ อย่างไร แพทองธาร เปิดเผยว่า มีการพูดคุยกัน เพราะเมื่อก่อน ฮุน มาเนต ก็ทำงานอยู่ในพรรคประชาชนกัมพูชาด้วย ซึ่งมีลักษณะคล้ายกัน คือ สมเด็จฮุนเซน ทำพรรคการเมืองมาก่อน และปัจจุบันลูกก็มารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนก็ได้แสดงความยินดี
ทั้งนี้ตนเองก็ต้องศึกษาว่าทางกัมพูชาทำพรรคการเมืองอย่างไร ถือว่าเป็นการเรียนรู้ประเทศเพื่อนบ้าน เผื่อจะนำอะไรที่เป็นประโยชน์มาปรับใช้ได้บ้าง ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่ตนเองเป็นอยู่ในขณะนี้ เป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์มาก
แพทองธาร ร่วมพิธีปฐมนิเทศหลักสูตร การป้องกันราชอาณาจักรสำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) รุ่นที่ 1 พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า วันนี้มาเรียนก็รู้สึกดี ตื่นเต้นที่ได้กลับมาเป็นนักเรียนอีกครั้ง ก็สมัครมาสักพักแล้ว รอวันเปิด เลยตื่นเต้นนิดหนึ่ง มาเจอหลายท่านข้างล่าง แต่ที่ตื่นเต้นกว่าคือเจอนักข่าวเยอะมาก
เมื่อถามว่าทำไมถึงตัดสินใจเรียนหลักสูตรนี้ แพทองธาร กล่าวว่า จริง ๆ เรื่อง วปอ. มีมานานแล้ว พอเปิดเป็น วปอ. รุ่นเด็กลงมา อายุเข้าเกณฑ์ เลยรู้สึกว่าถ้ามาเรียน ก็จะได้รู้ในสิ่งที่เรายังไม่ทราบอีกเยอะ และคิดว่าการที่จะได้เข้ามาเรียนตรงนี้ น่าจะมีประโยชน์ในการใช้ในเส้นทางการเมืองแน่นอน
เมื่อถามว่าจุดหมายปลายทางของหลักสูตรนี้คืออยากทราบทัศนคติของคนรุ่นใหม่เกี่ยวกับการปฏิรูปกองทัพ ในมุมของแพทองธารมองว่าควรเป็นอย่างไรในอนาคต แพทองธาร ระบุว่า ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป หลาย ๆ อย่างไม่ใช่แค่กองทัพอย่างเดียว ก็ต้องมีการปรับตัว และเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เพื่อจะให้บ้านเมืองสงบสุข เราต้องหันหน้าเข้ามาคุยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ตั้งแต่เรื่องเล็กไปถึงเรื่องใหญ่ แต่เรื่องที่เป็นของระดับประเทศ เราก็คุยกันในสภา ที่มี สส. เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนเข้ามาคุยร่วมกัน ก็จะเป็นสิ่งที่ชัดเจน และมีตัวแทนของประชาชนได้มากที่สุด
เมื่อถามว่าจะเป็นประธานรุ่นด้วยหรือไม่ แพทองธาร ตอบว่า “โอ้ย เดี๋ยวก่อน ยังเจอไม่ครบเลยค่ะ จะเป็นประธานรุ่นไม่ได้” แต่คิดว่าต้องดูเรื่องเวลาเรียนด้วย เพราะเปลี่ยนมาเรียนเป็นวันจันทร์ กับวันอังคาร ซึ่งตนมีประชุม สส. ที่พรรคในวันอังคาร ซึ่งก็ต้องดูเวลานิดนึง เพราะงานที่พรรคก็สำคัญมากเลย
เมื่อถามว่าตอนที่มาสอบสัมภาษณ์เป็นคำถามเกี่ยวกับอะไร แพทองธาร กล่าวว่า สัมภาษณ์เรื่องว่ามาเรียน จะมีการหาคอนเนคชั่นหรือไม่ ตนก็ตอบไปตรงๆ ว่าการที่คนมาเรียนไม่ใช่แค่คอร์สนี้ แต่ในทุกคอร์ส ทุกคนอยากได้คอนเนคชั่น ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ โรงเรียนก็จะได้มาระดับหนึ่ง มหาวิทยาลัยก็จะเป็นอีกกลุ่มหนึ่ง ไปเรียนเมืองนอกก็ได้อีกกลุ่มหนึ่ง อย่างเพื่อนต่างชาติที่ตนก็ยังมีอยู่เลย แล้วการกลับมาก็เป็นช่วงอายุที่เปลี่ยนไป ดังนั้น การที่คุณจะหาคอนเนคชั่น หรือไปหาเพื่อนกลุ่มใหม่ ๆ สังคมใหม่ ๆ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ทำให้เราได้เปิดกว้างเรียนรู้จากคนหลายคน
เมื่อถามว่าการมาหาคอนเนคชั่นในครั้งนี้ หรือหลักสูตรดังกล่าว จะถูกโจมตีว่าทำเพื่อเรื่องส่วนตัว แพทองธาร กล่าวว่า ตนว่าทุกคอร์ส ทุกคนก็มาเรียนเพื่อประโยชน์ของตัวเอง และประโยชน์เพื่อใด ๆ ของคนที่เรารัก และแคร์ ทุกคนก็เป็นอย่างนั้น และไม่ใช่เรื่องน่าแปลก ว่ามาแล้วจะได้ผลประโยชน์ ยังไม่ได้ไปโกงกินใคร เรามาแล้วได้ประโยชน์ ก็เป็นสิ่งที่ดี ถ้าเรามาแล้วเรารู้สึกว่าเราไม่ได้อะไรเลยจากการที่ มาแล้วจะมาทำไม เพราะฉะนั้น มาก็ต้องได้ประโยชน์ และไม่เป็นไร และหวังว่าคอร์สนี้ ทุกคนจะได้ประโยชน์จากอะไรก็ตามในที่เรียน
จากนั้น พลอากาศเอกภูมิใจ เลขสุนทรากร ผู้บัญชาการ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ กล่าวต้อนรับนักศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรสำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.)รุ่นที่ 1 ว่า ถือเป็นหลักสูตรรุ่นที่ 1 ซึ่งมีที่มาที่ไปนานพอสมควร เพราะก่อนหน้านั้นเกือบจะสำเร็จ แต่ต้องล้มเลิกไป
ซึ่งวันนี้แม้ตนจะเป็นผู้บัญชาการสถาบันป้องวิชาการป้องกันประเทศ แต่ขอเป็นอาจารย์ กับศิษย์ สำหรับการปฐมนิเทศวันนี้เพื่อที่จะชี้ให้เห็นว่า ในช่วงเวลาที่อยู่กัน 6 เดือนเราจะทำอะไร และจะได้อะไรกัน พวกเราคือความคาดหวังและสังคมมองดูทุกท่าน ในกระบวนการที่ได้คัดเลือกเข้ามา ต้องถือว่าพวกเรา มีมาตรฐานสูงมากของประเทศ ขอแสดงความยินดีกับพวกเราทุกคน
สำหรับวันนี้เป็นการปฐมนิเทศและการรายงานตัวของนักศึกษา วปอ. บอ. โดยมีคนดังตบเท้าเข้าเรียนในวันแรก อาทิ รัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , ธนนนท์ นิรามิษ ภรรยาของ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย , คณาพจน์ โจมฤทธิ์ คณะทำงานของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง , ธราภุช คูหาเปรมกิจ หรือ เซนต์ นักธุรกิจชื่อดัง สามีของ "มิว - นิษฐา , อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ , พชร นริพทะพันธุ์ ที่ปรึกษาประจำประธาน กสทช. และ บุตรชาย พิชัย นริพทะพันธุ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี
แพทองธาร กล่าวถึงการเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และครอบครัว ว่า หลังจากที่กลับจากเชียงใหม่ ทุกคนเป็นไข้หวัดหมดเลย เพราะมีเรื่องฝุ่นควัน โดยลูกสาวและลูกชายก็ป่วยเป็นโควิดซึ่งตนเองก็พยายามที่จะไม่ให้ติดโควิดตอนนี้ " เริ่มกลัวแล้วตอนนี้ สำหรับคุณพ่อก็โอเค"
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่า สว.จะมีการนำเรื่อง ของ ทักษิณมาอภิปรายในวันที่ 25 มี.ค. นี้หรือไม่ แพทองธาร ได้หัวเราะพร้อมกล่าวว่า ก็อาจจะไม่พลาด ซึ่งไม่เป็นไร ทุกเรื่องตอบได้แน่นอน
แพทองธาร กล่าวถึงกรณี สส.พรรคเพื่อไทย เปิดชมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ระหว่างทีมชาติไทย และทีมชาติเกาหลีใต้ ในช่วงที่สภามีการอภิปรายงบประมาณปี 67 โดยชมผ่านเว็บเถื่อน ซึ่งเว็บดังกล่าวมีโฆษณาของเว็บพนันด้วย โดยมองในส่วนตัวว่า ต้องตักเตือนกันเรื่องที่ดูบอลระหว่างประชุมงบประมาณ ซึ่งเป็นเวลาไม่เหมาะสม
พร้อมย้อนถามสื่อมวลชนว่า "ตรงนี้มีใครดูเว็บเถื่อนบ้างมั้ยคะ อิ๊งค์ว่าจริงๆ ก็ต้องดูแลเรื่องนี้อีกทีด้วยค่ะ คืออิ๊งค์คิดว่าเว็บเถื่อนทุกคนเข้าถึง เราก็ต้องดูเว็บที่ไม่เถื่อน หรือช่องทางที่ไม่เถื่อน เราสามารถให้ประชาชนได้ดูยังไงได้บ้าง อันนี้ก็คงต้องดูแลกันต่อไป แต่..ใช่ค่ะ ไม่ควรดูในเวลานั้น อิ๊งค์ก็จะตักเตือน"