เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน พิธีเปิดการฝึกอบรมหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต หรือ วปอ.บอ.รุ่นที่ 1 โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อบทบาทของผู้นำในอนาคต ในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ ว่า วปอ.ชื่อหลักสูตร บอกชัดเจนอยู่แล้วในการเป็นหลักสูตรที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และเป็นส่วนหนึ่งที่จะนำพาประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองได้ในอนาคต รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 1 ซึ่งเข้าใจว่ามีหลายคนอยากมาเรียนกันเยอะ เนื่องจากเป็นคอร์สที่มีความต้องการที่จะเข้ามาเรียนอย่างสูง เชื่อว่าทุกท่านได้รับการคัดเลือกมาด้วยความเหมาะสม มีการอบรมเป็นอย่างดี
ก่อนกล่าวติดตลกว่า ไหนๆก็มาแล้ว ก็อย่าขาดเรียน เข้ามาก็เข้ายาก และขอให้เรียน ซึ่งตนมั่นใจว่าหลักสูตรสถาบันนี้ให้ความรู้แน่นอน ซึ่งนอกจากความรู้แล้วเรื่องของคอนเนคชั่น หรือเรื่องเครือข่ายในการทำงานร่วมกันเป็นเรื่องที่สำคัญ ตนเชื่อว่า หลายๆท่านมาในที่นี้เพราะเหตุผลนี้ทำว่าผิดไหมไม่ผิด แต่ คอนเนคชั่น ต่างๆเหล่านี้ต้องใช้ให้เป็นประโยชน์ แก่ตัวเอง แก่ผู้อื่นโดยไม่ไปเบียดเบียน หรือไปทำให้เกิดความไม่เหมาะสม ตนเคยพูดไปหลายครั้งแล้วเรื่องนี้ ตนไม่อยากจะเน้นย้ำ แต่ว่าสังคมของเราในช่วงนี้มีความเหลื่อมล้ำกันสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่มีการแพร่ระบาดโควิด -19 เกิดขึ้นคนรวย รวยขึ้น คนจน จนลง จึงต้องพูดอย่างตรงไปตรงมาที่สุด เรื่องนี้เป็นเรื่องที่บั่นทอนความมั่นคงของประเทศพอสมควร
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า พวกเราทุกคนที่อยู่ในที่นี้ตนเชื่อว่าเป็นอนาคตของชาติและจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมและการเมืองต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องที่พวกเราทุกคนควรตระหนักดีถึงเรื่องนี้ เพราะฉะนั้น เรื่องของเราที่จะต้องมีความพยายามในการลดความเหลื่อมล้ำลงมา ตนถือว่าเป็นหน้าที่ของทุกคน วันนี้ตำแหน่งหน้าที่การงานอาจจะไม่ใหญ่โตมากมาย การประพฤติตัวตรงนี้ ก็จะเป็นที่จับตามองของสาธารณชน ค่อนข้างมาก มีการใช้โซเชียลมีเดียต่างๆนานา ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม เรามาอยู่ในที่นี้มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ มีองค์กรอิสระ มีนักธุรกิจ มีนักการเมือง เป็นการผสมผสานอย่างลงตัว
พร้อมกับระบุว่า สถาบันก็ได้คิดมาดีแล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องเหล่านี้เราจะให้ความสำคัญในเรื่องของการใช้โซเชียมีเดีย ตนขอย้ำอีกครั้งว่า อะไรที่เป็นการทำให้คนรู้สึก หรือไม่มีโอกาสได้เข้ามาตรงนี้เวลาจะทำอะไรขอให้คิด ขอพวกท่านเป็นที่จับตามองของพวกท่านทุกคนรายชื่อก็มีการประกาศชัดเจนว่าใครได้ใครอยู่ในคอร์สนี้บ้าง ชื่อคอร์สก็บอกอยู่แล้ว Future Reader ผู้บริหารแห่งอนาคต ตนมองว่าเป็นเรื่องสำคัญของอนาคตของพวกท่านทุกคนส่งต่อไปสู่อนาคตของประเทศชาติ
เศรษฐา ยังกล่าวอีกว่า วันนี้หากพูดถึงเรื่องความมั่นคงเรื่องที่เราให้ความสำคัญมากที่สุดในเรื่องความมั่นคงของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ปัจจุบันที่ประเทศเมียนมา ซึ่งก็เป็นประเด็นที่ร้อนแรง ในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา ประเทศไทยเรายืนยันว่าเรามีจุดยืนที่เป็นกลาง เราช่วยเหลือมนุษยชนและให้ความเป็นธรรมกระทบทุกฝ่าย เราไม่ก้าวก่ายในกิจการภายในของแต่ละประเทศ อย่างไรก็ตามหากพวกท่านอาจจะเรียนภูมิศาสตร์มาแล้วและเห็นว่าชายแดนของเราติดกันเมียนมาประมาณ 2,000 กิโลเมตร เพราะฉะนั้นถือเป็นมีพื้นที่ที่ติดกันจำนวนมาก การเข้าออกได้ทุกทางสามารถเปลี่ยนไปได้อย่างง่ายดาย ซึ่งประเทศที่จะมีส่วนได้เสียกับประเทศเมียนมามีความเป็นหนึ่งเดียวได้เสียและสามารถพัฒนาได้ประเทศที่จะได้ประโยชน์สูงสุดก็คือประเทศไทย ในทางกลับกัน หากเขาอยู่ไม่ได้เราก็จะเดือดร้อน ซึ่งจุดยืนของเราชัดเจน ตามนโยบายที่ทางอาเซียนให้เรามา
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ความมั่นคงของประเทศมีหลายมิติ ทำการบ้านเศรษฐกิจก็มีส่วนที่ทำให้เรามีความมั่นคงด้านการรักษาดินแดนหรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ วันนี้ไม่ได้มาโฆษณาโครงการของรัฐแต่อย่างใด เรามีโครงการ แลนด์บริดจ์ที่จะช่วยเชื่อมระหว่างทะเลอันดามันและอ่าวไทย และช่องแคบมะละกาที่สิงคโปร์ มีความแออัดค่อนข้างมากเป็น 60% ของทั่วโลก ก่อให้เกิดการล่าช้าและเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ซึ่งเรื่องแลนด์บริดจ์ก็ต้องพูดถึงเรื่องคอคอดกระ เราก็จะมาหลายสิบปีหลายๆท่านพูดว่า ทำไม่ได้เนื่องจากเรื่องความมั่นคง แต่แลนด์บริดจ์ ไม่ใช่การแบ่งแยกดินแดน เป็นการลงทุนก็จะต่ำกว่า ซึ่งตนมั่นใจว่าผลตอบแทนทางด้านการเงินจะเหมาะสมและระยะเวลาที่เราจะเปลี่ยนได้ในการขนถ่ายสินค้า
อย่างไรก็ตามนี้สถานการณ์เลยปัจจุบันต้องยอมรับว่ามีคู่กรณีหลายๆคู่ในเรื่องที่ไม่เห็นด้วยชัดเจนที่สุดก็คืออยู่เขตรัสเซีย แม้ว่าจะอยู่ไกลจากเรามาก แต่ประชาชนคนไทยก็ได้รับผลกระทบมากพอสมควรได้รับผู้เสียชีวิต 40 กว่ารายและได้รับ ถูกจับ 8 ราย แม้ว่าเราจะไม่ใช่คู่ขัดแย้ง แต่เราก็ส่งแรงงานไปในภาคเกษตรกรรม ก็ยังโดนหางเล่ไปด้วย ขณะที่ความขัดแย้งในการค้าจีนสหรัฐ ก็มีความรุนแรงเกิดขึ้นมาก ส่วนเรื่องทะเลจีนใต้ระหว่างไต้หวัน จีน ฟิลิปปินส์ สหรัฐ มีคู่กรณีหลายคู่เต็มไปหมด ตนก็อยากฝากข้อคิดว่า ประเทศไทยมีจุดยืนเป็นกลาง เราจะมีการสร้างแลนด์บริดจ์ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการร่วมทุนระหว่างเอกชนรัฐบาล
โดยรัฐบาลเรายืนยันว่าคนที่จะ Control access ทั้งหมด ต้องเป็นรัฐบาลไทย การเปลี่ยนแปลงตนคิดว่าจะส่งผลหลายอย่าง ตนบอกว่าประเด็นความขัดแย้งทางเศรษฐกิจ จะทำให้ทุกคนต้องการเส้นทางนี้ในการส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศเขา เพราะฉะนั้นตนมั่นใจว่าประเทศไทยจะเป็นสวิตเซอร์แลนด์ของโลก แลนด์บริดจ์จะเป็นอาวุธ ที่สำคัญเท่ากับเรือฟริเกต เครื่องบินกริพเพน ทำให้ประเทศไทยมีศักยภาพที่ดีขึ้น ใครก็ตามที่รุกรานเราก็จะคิดเสมอว่าเส้นทางนี้เป็นเส้นทางเศรษฐกิจที่สำคัญหากถูกรุกรานเมื่อไหร่ ก็จะได้รับความเดือดร้อน พร้อมย้ำว่าแลนด์บริดจ์จะต้องได้รับการลงทุนที่เหมาะสม และต้องนำมาซึ่งความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องช่วยเหลือคนที่อยู่ฐานรากของสังคมซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่ปรารถนาเลยว่า 40% ของประชาชนคนไทย ซึ่งอยู่ในภาคเกษตรกรรม อาจจะเรียกว่าอยู่ในกลุ่มเปราะบาง จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดูแลให้ดี ขณะที่การเกณฑ์ทหารนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขณะนี้เป็นช่วงฤดูกาลการเกณฑ์ทหาร โดยนโยบายที่ชัดเจนเรื่องหนึ่งคือความสมัครใจการเกณฑ์ทหารในรัฐบาลนี้ โดยจะต้องค่อยๆทำด้วยการเปลี่ยนผ่านเพราะสังคมไทยไม่ชอบอะไร ที่เป็นอย่างนี้ โดยนายกรัฐมนตรีทำท่าพลิกฝ่ามือ พร้อมกับกล่าวต่อว่า ลำบากครับ ตนเชื่อว่าสถาบันทหารเองก็ต้องการบุคลากรที่มีคุณภาพที่ต้องเข้าไปอยู่ในองค์กรทำให้สถาบันทหารแข็งแกร่งขึ้น
แต่แน่นอนว่าจิตวิญญาณของพวกเราทุกคนคนสมัยใหม่ต้องการทางเลือก ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งก็ต้องมาด้วยกฎระเบียบที่ต้องค่อยๆผ่อนคลายกันไป วันนี้ก็เริ่มเห็นผลแล้วไม่ว่าจะเป็นมาตรการที่รับสมัครทหารมากขึ้นและลดปริมาณการเกณฑ์ทหารลง พร้อมกับมองว่าสายการแพทย์ของทหาร หากจะรับบุคลากรทางการแพทย์ทหารมากขึ้นแล้วผิดตรงไหน ก็เขาสมัครใจอยากจะมาเป็น อย่าเอาทฤษฎี One site fit all มาใช้กับทุกบริบทของประเทศ ซึ่งกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในหลายมิติ อะไรที่เหมาะสมอะไรที่สมควรตนเชื่อว่าต้องคงไว้หรือเพิ่มมากขึ้นได้ ส่วนการที่จะทำให้คนมีทางเลือกเพิ่มมากขึ้นก็ถือว่าสำคัญ หลายๆอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพในการเลือกเพศสภาพ หรือการเลือกประกอบอาชีพซึ่งส่งผลให้กับอนาคตของชาติ 2 ปีที่ผ่านมามีปรากฏการณ์ที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้นคือประชากรของประเทศไทยลดน้อยลง
ซึ่งตนเชื่อว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลนี้และรัฐบาลต่อๆไป ที่จะโน้มน้าวให้ประชาชนมีลูกมากยิ่งขึ้น แต่ไม่ใช่เพียงว่า รณรงค์ให้มีลูกเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่แก้โครงสร้างพื้น ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลมีความสำคัญ หลังจากที่พวกท่านจบคอร์สในเดือนกันยายนนี้แล้ว จะมีการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง อาจจะมีโครงการแต่ละคน หากสามารถช่วยคนที่อยู่ฐานรากของสังคมได้ ก็ขอให้ช่วยอย่างจริงจังใครมีเส้นสายในแง่ของช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ที่ลงไป ก็อยากให้ลงมาช่วยพิจารณาช่วยเหลือกันใช้เครือข่ายที่ตัวเองมีอยู่ช่วยเหลือประชาชน ตนคิดว่าสังคมไทยจะมั่นคงยิ่งขึ้นโดยมีฐานรากของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ต้นคิดว่าระยะเวลาการอบรม 6 เดือนนี้จะเป็นมิตรภาพที่แน่นแฟ้น และมีส่วนพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต
สำหรับบุคคลที่มีชื่อเสียง ร่วมหลักสูตรนี้ อาทิ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, ชัยชนะ เดชเดโช สส.ปชป., รัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกรัฐบาล คณาพจน์ โจมฤทธิ์, อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ และ สุภานัน นิราษิท ภรรยา อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี