ไม่พบผลการค้นหา
สำนักข่าวอิรวดีรายงานว่า พลเรือนอย่างน้อย 50 คนรวมถึงเด็กเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ 30 คน เมื่อเครื่องบินขับไล่ของเผด็จการเมียนมา ได้ทิ้งระเบิดใส่หมู่บ้านปาซิจี ในเมืองกันบาลู ของภูมิภาคสะกาย เมื่อเวลาประมาณ 07.45 น. ของวันอังคาร (11 เม.ย.) ซึ่งเป็นหนึ่งในการโจมตีทางอากาศ ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดการรัฐประหาร

เครื่องบินขับไล่ไอพ่นทิ้งระเบิด 2 ลูกใส่บ้านในปาซิจี ซึ่งชาวบ้านในท้องถิ่นและสมาชิกป้องกันหมู่บ้านได้ทำพิธีขึ้นบ้านใหม่ โดยพวกเขาได้รับมอบหมายให้ปกป้องทรัพย์สินของผู้อยู่อาศัยและปกป้องหมู่บ้าน ทั้งนี้ ตามแหล่งข่าวในท้องถิ่นระบุว่า การโจมตีตามมาด้วยเสียงปืนหลายนัดจากเฮลิคอปเตอร์ต่อสู้ Mi-35 

“ผู้คนจำนวนมากรวมถึงเด็กเสียชีวิต และผู้บาดเจ็บอาจเกิน 50 คน” อูเนซินลัต ส.ส.จากการเลือกตั้งในเขตกันบาลูกล่าว อย่างไรก็ดี รายงานเบื้องต้นที่ยังไม่ได้รับการยืนยันบางฉบับ ระบุยอดผู้เสียชีวิตไว้ที่ประมาณ 100 ราย

ตามคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ในท้องถิ่น มีรายงานอีกว่าเด็กอายุ 2 และ 3 ขวบอยู่ในกลุ่มที่รวมตัวกัน ณ บริเวณที่เกิดการโจมตีทางอากาศ โดยมีการคาดว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 50 คนและบาดเจ็บประมาณ 30 คนในการโจมตี แต่ตัวเลขดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้นได้ 

“ในขณะนี้ มันยากที่จะบอกว่ามีผู้เสียชีวิตกี่คน เราไม่สามารถนำร่างและชิ้นส่วนของร่างกายกลับคืนมาได้ เนื่องจากพื้นที่ที่เกิดการโจมตีทางอากาศยังคงมีไฟลุกไหม้อยู่” ผู้อาศัยจากหมู่บ้านใกล้เคียงกล่าว นอกจากนี้ ยังมีรายงานอีกว่าศพจำนวนมากถูกระเบิดสังหารอย่างรุนแรง ทำให้ยากต่อการระบุตัวตนเหยื่อ

เผด็จการเมียนมามักทำการโจมตีทางอากาศ ใส่พื้นที่ที่เผด็จการเมียนมาเรียกกันว่าเป็น “ฐานที่มั่นต่อต้านรัฐบาล” เช่น พื้นที่รัฐสะกายและรัฐชิน นอกจากนี้ ยังมีการทิ้งระเบิดระหว่างปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในเมืองฟาลัมของรัฐชิน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (10 เม.ย.) ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน ในขณะที่การโจมตีทางอากาศในรัฐคะฉิ่นเมื่อปีที่แล้ว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 80 คน

โกออง ชาวบ้านของหมู่บ้านปาซิจี เล่าถึงภาพที่น่าตกตะลึงที่เกิดขึ้นต่อหน้าเขา เมื่อเขามาถึงที่เกิดเหตุโจมตีทางอากาศ “ผมยืนตกตะลึงเมื่อเห็นร่างที่กระจายอยู่บนพื้น รถมอเตอร์ไซค์ถูกไฟไหม้ และบ้านก็พังยับเยินจากการทิ้งระเบิด ผู้คนร้องไห้ขณะที่พวกเขากำลังตามหาญาติของพวกเขา” โกอองระบุ

โกอองกล่าวว่า เขาวางแผนที่จะเข้าร่วมพิธีขึ้นบ้านใหม่ หลังจากเขาแบกกระสอบข้าวไปทางทิศตะวันตกของหมู่บ้านเสร็จ เพื่อไปงานแต่งงานของพี่ชาย ซึ่งจะจัดขึ้นในวันพุธนี้ (12 เม.ย.) “ผมรอดจากการทิ้งระเบิดมาได้อย่างหวุดหวิด แต่ผมก็อยู่ที่นั่นเมื่อ Mi-35 โจมตีเรา ผมกระโดดลงไปใต้สะพานคอนกรีตเพื่อหลบการโจมตี ผมสูญเสียญาติในเหตุระเบิด หลานชาย ลุง และลูกพี่ลูกน้องของผมถูกฆ่าตายทั้งหมด” โกอองกล่าว

ดูลาลาชีลา รักษาการประธานาธิบดีพลเรือนของรัฐบาลเอกภาพแหง่ชาติเมียนมา (NUG) กล่าวประณามการโจมตีหมู่บ้านปาซิจี ว่าเป็นอีกหนึ่งอาชญากรรมสงครามที่โหดร้ายโดยเผด็จการเมียนมา เขายังได้แสดงความเสียใจว่า จิตวิญญาณแห่งการปฏิวัติที่ต่อต้านเผด็จการเมียนมาจะไม่ถูกครอบงำ พร้อมกล่าวเสริมว่าการโจมตีในครั้งนี้ จะกลายเป็นแรงผลักขนาดใหญ่ในการโค่นล้มระบอบการปกครอง “ผมขอบอกคุณอย่างจริงจังว่า ชีวิตที่สูญเสียไปจะไม่สูญเปล่า” ดูลาลาชีลากล่าว

เมื่อเดือนที่แล้ว หมู่บ้านปาซิจีถูกกระสุนปืนยิงโจมตีอย่างหนัก ทำให้บ้านเสียหาย 3 หลัง ทั้งนี้ ไม่มีรายงานการสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมา และกองกำลังต่อต้านในพื้นที่ โดยกองทหารของเผด็จการเมียนมารุกคืบเข้ามาทางตะวันออกของเขตกันบาลู ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านที่เป็นเป้าหมายในการทิ้งระเบิดโดยกองทัพอากาศของเผด็จการเมียนมา


ที่มา:

https://www.irrawaddy.com/news/burma/at-least-50-civilians-including-children-massacred-in-myanmar-regime-air-strike-in-sagaing.html