วันที่ 25 พ.ค. 2565 ที่อาคารรัฐสภา ธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฏร แถลงข่าวกรณี ที่คณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) มีคำสั่งไม่ฟ้องคดีของ วรยุทธ อยู่วิทยา หรือ ‘บอส อยู่วิทยา’ ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต

ธีรัจชัย กล่าวถึงการแถลงครั้งที่ผ่านมา กรณีคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) มีคำสั่งให้ลงโทษ เนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด ให้ออกจากราชการ ตาม พ.ร.บ.ข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ.2553 มาตรา 85 และ มาตรา 87 โดยคำสั่งนี้ขัดแย้งต่อความรู้สึกของประชาชน เนื่องจาก ผู้ที่ออกจากราชการยังได้รับค่าบำเหน็จบำนาญได้ตามปกติ และยังมีผลให้ออกจากราชการนับตั้งแต่วันที่ผู้ได้รับบทลงโทษยื่นลาออกเป็นการสมประโยชน์ให้กับผู้ถูกลงโทษ เท่ากับว่าผลลงโทษทางวินัยไม่ส่งผลกระทบในทางปฏิบัติอย่างไรเลย ส่งผลให้ประชาชนที่ให้ความสนใจ และติดตามผิดหวัง และวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก 

โดยคณะ กมธ. ป.ป.ช. ทราบข้อมูลเพิ่มเติมว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่มี พล.ต.อ.วิษณุ ปราสาททองโอสถ รอง ผบ.ตร. หัวหน้าคณะกรรมการพิจารณาทางวินัยตำรวจ ที่เกี่ยวข้องกับการทำคดีนี้ พิจารณาดำเนินคดีร้ายแรงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับชั้นเอก 2 นาย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 ได้เปลี่ยนแปลงความคิดเห็นเรื่องความเร็วรถเฟอร์รารีของ บอส อยู่วิทยา ในขณะเกิดเหตุ ซึ่งหากข้อมูลดังกล่าวเป็นความจริง ก็ถือว่าเป็นอีกความผิดพลาดที่ซ้ำรอยกับการตัดสินลงโทษของคณะกรรมการอัยการสูงสุด หรือแย่ยิ่งกว่า

ทั้งนี้ ธีรัจชัย ได้ฝากถึง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อยากให้พิจารณาอย่างถี่ถ้วน มิฉะนั้น จะทำให้นายตำรวจที่ถูกพิจารณาดำเนินคดีร้ายแรงถูกกดดัน ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจขั้นสูงกลับไม่ถูกดำเนินคดี 

“กระบวนการยุติธรรมของประเทศนี้มันเป็นแบบนี้เหรอครับ ถ้าหากมีใครกระทำผิดคดีใหญ่แบบนี้ คดีความเหลื่อมล้ำคนจนกับคนรวยไม่เท่ากัน คนรวยไม่ถูกดำเนินคดีจนถึงทุกวันนี้นาย บอส อยู่วิทยา ยังไม่มีใครสามารถบินไปจับได้เลย”

ทั้งนี้ ธีรัจชัย ได้ทิ้งท้ายว่า อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้สั่งการ พล.ต.อ.วิษณุ มาให้ข้อมูลอย่างชัดเจนต่อกรรมาธิการ ในฐานะที่เป็นชายชาติทหาร และเหมาะสมในการบริหาร

“เมื่อตั้งคนและกำกับประเทศไม่ดีแล้วจะโยนให้คนอื่นมารับผิดชอบ และตอบคำถามเลี่ยงไปเลี่ยงมาไม่ถูกต้อง อยากให้พิจารณาตัวเองว่าเหมาะสมที่จะเป็นนายกฯ บริหารประเทศต่อไปหรือไม่ ถ้าไม่มีก็อย่าอยู่เลย” ธีรัจชัย กล่าว