วันที่ 29 มี.ค. 2567 ที่อาคารรัฐสภา พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึง กรณีที่สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบรายงานโครงการสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ว่า ทางรัฐบาลต้องพิจารณาข้อดีข้อเสีย เนื่องจากเป็นนโยบายของรัฐบาล ในหลายประเทศรวมถึงประเทศเพื่อนบ้านก็มีคาสิโน ขึ้นอยู่กับว่า ระบบในปัจจุบันจะสามารถควบคุมได้อย่างไร ให้คนที่ไม่มีความพร้อมเข้าไปในสถานที่ดังกล่าว อะไรก็ตามที่ไม่ถูกกฎหมายก็มีคนพร้อมที่จะให้บริการทางด้านนั้นด้วยค่าตอบแทนที่ไม่ถูกต้อง
เพราะฉะนั้นต้องทำให้ถูกต้อง สามารถควบคุมได้ รวมถึงจะทำให้เกิดภาษีที่จะสามารถนำมาพัฒนาประเทศ ในฐานะที่เคยเป็นเจ้าหน้าที่ยุติธรรมที่ผ่านมา ตนมองว่าทำอะไรก็ได้ที่ชอบด้วยกฎหมาย ถ้าพิจารณาคิดว่ามีประโยชน์มากกว่าข้อเสีย ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายว่าจะครอบคลุมดูแลได้มากเท่าไหร่ ไม่มีอะไรที่ถูกหรือผิด 100 เปอร์เซนต์
พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ส่วนที่ถูกมองว่า เป็นการฟอกเงินหรือไม่ เนื่องจากมีการกำหนดให้คนที่พร้อมเท่านั้นสามารถใช้บริการได้ ต้องไปดูประเทศที่เขาเจริญแล้ว ทำไมถึงมีคาสิโนและสามารถทุ่มทุนในการลงทุนได้ ทุกเรื่องมีคนได้ผลประโยชน์และเสียประโยชน์ ต้องทำให้โปร่งใสและสามารถอธิบายกับประชาชนได้ รวมถึงลดปัญหาตำรวจที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จะได้ทำหน้าที่ที่ถูกต้อง เงินภาษีจากการเปิดคาสิโนก็นำไปพัฒนาตำรวจ ไปสนับสนุนให้พร้อมในการทำงาน ให้เขาได้ทำหน้าที่ได้โดยไม่ต้องไปพึ่งพาอะไรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จะไม่อ้างว่าใช้เงินผิดกฎหมายมาทำงานราชการ
ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบจริยธรรม สส.ของพรรคก้าวไกลทั้ง 44 คน ที่ร่วมลงชื่อเสนอแก้ไขกฎหมายประมวลอาญา ม.112 นั้น ขณะได้ดำเนินการอยู่ มีหลายเรื่องที่ต้องตรวจสอบไปพร้อมกัน ซึ่งกรอบเวลาในการดำเนินการนั้นตาม กฎหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบไม่เกิน 2 ปี และสามารถขยายเวลาได้ไม่เกิน 1 ปี ซึ่ง ป.ป.ช. พยามจริงจังกับกรอบเวลา คาดผลที่ออกมาน่าจะใกล้เคียงกัน